เควิน เดอ บรอยน์ สตาร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พูดถึงเรื่องเมื่อครั้งอำลา เชลซี พร้อมเผยว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เป็นนักเตะคนสำคัญในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม
แข้งทีมชาติเบลเยียมตกลงย้ายจาก เกงค์ ทีมในบ้านเกิดมาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2012 แต่ยังไม่ทันได้ลงเล่นกับสโมสรก็โดนปล่อยให้ เบรเมน ยืมตัวใช้งานในฤดูกาล 2012/13 ซึ่งผลงานก็ใช้ได้เลยทำ 10 ประตูกับ 9 แอสซิสต์จากการลงเล่น 31 เกมในบุนเดสลีกา เยอรมัน
อย่างไรก็ตามการกลับมาอยู่กับ เชลซี ในปีถัดมากลับไม่ได้รับโอกาส จนกระทั่งช่วงตลาดหน้าหนาวจะโดนขายให้ โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งเจ้าตัวเค้นฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมออกมากระทั่ง แมนฯ ซิตี้ ยอมจ่าย 55 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาร่วมทีม
ทาง เดอ บรอยน์ ออกมาพูดถึงสาเหตุที่ตัดสินใจอำลา “สิงห์บลูส์” ในตอนนั้น พร้อมเผยว่าไม่คิดมาก่อนว่าจะได้กลับมาเป็นแข้งคนสำคัญช่วยทัพ “เรือใบ” ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม
“ผมตัดสินใจย้ายทีมเพราะผมรู้สึกว่าไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่นในตอนนั้น” เดอ บรอยน์ กล่าวกับสกาย สปอร์ตส์
“ผมมองไม่เห็นโอกาสอีกแล้ว ดังนั้นสำหรับผมมันคงดีกว่าที่จะย้ายออกจาก เชลซี และไปสู่สถานการณ์ที่ผมรู้สึกว่าผมสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง”
“ผมคาดหวังหรือเปล่าว่าจะเป็นอย่างในปัจจุบัน? ไม่เลย เพราะในตอนนั้นมันเป็นจุดตกต่ำในอาชีพของผม แต่ผมไม่เคยสงสัยความสามารถของตัวเองในฐานะนักฟุตบอลเลย”
“ผมไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเส้นทาง 8 ปีจากนั้นในการเล่นให้ซิตี้ เล่นฟุตบอลโลกและอะไรอีกมากมาย มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ”