โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมคาราบาว คัพ รอบสี่ ที่เอาชนะจุดโทษ เชลซี 5-4 วานนี้ว่าด่าแรงใส่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีมคู่แข่งจริงๆ แต่พอจบแมตช์ก็เลิกแล้วต่อกันเพราะทราบว่ามันคือความตึงเครียดในเกม
ดราม่าเกิดนาที 20 หลังจาก ติโม แวร์เนอร์ ยิงให้ ‘สิงห์บลูส์’ ขึ้นนำ 1-0 แล้ว ‘แลมพ์ส’ เหมือนมายืนแอ็กต์ข้างสนามพูดอะไรบางอย่าง ทาง โชเซ่ จึงด่าสวนไปว่า “ตอนสกอร์ตามหลัง 0-3 มึงไม่เห็นมายืนเก็กอยู่ตรงนี้เลยโว้ย” มูรินโญ่ หมายถึงแมตช์ในลีกที่ เชลซี ตามหลัง เวสต์บรอมวิช 0-3 แต่รัวจนตีเสมอ 3-3
เดือดร้อนผู้ตัดสินที่สี่ต้องมาแยกวงก่อนจะบานปลายมากกว่านั้น กระทั่งนาที 83 สเปอร์ส ตีเสมอ 1-1 จาก เอริค ลาเมล่า นำไปสู่การดวลเป้ากระทั่ง ‘ไก่เดือยทอง’ คว้าชัยในที่สุด
นั่นทำให้กุนซือวัย 57 ปี ซึ่งอารมณ์เย็นแล้ว ลูบหลังอดีตลูกน้องทันทีว่าคือขุนขวานสำคัญช่วยงานตอนยังเป็นบอสที่ เดอะ บริดจ์
“กับ แฟร้งค์ ความรู้สึกดีที่มีต่อเขามันสำคัญกว่าคำพูดที่เราด่าใส่กันในเกมล่าสุด ผมยังคงรู้สึกเหมือนติดหนี้หมอนั่นเสมอ กับทุกสิ่งที่มอบให้ตอนร่วมงานกัน”
“เมื่อครั้งเป็นนักเตะเขาทุ่มเททุกอย่างที่ตัวเองมีให้โค้ชอย่างผม แล้วผมไม่เคยลืมความรู้สึกที่มีต่อหมอนั่น มันยังตราตรึงเสมอว่ากุนซืออย่างผมเป็นหนี้ผู้เล่นซึ่งยอดเยี่ยมขนาดนั้น, เป็นทั้งเพื่อน, เป็นทั้งมืออาชีพ”
“สิ่งเดียวที่ผมบอกต่อเขาในจังหวะนั้นเพียงความเห็นส่วนตัวจากโค้ชแก่ถึงโค้ชหนุ่มมากความสามารถ ว่าคุณจำเป็นต้องปฏิบัติตัวอย่างไรให้ลูกน้องยังสู้เมื่อสกอร์ตามหลัง”
“เพราะเมื่อคุณอยู่สถานการณ์บอลนำมันไม่จำเป็นต้องออกท่าเยอะส่งการข้างสนาม เราจะทำมันก็ต่อเมื่อตามหลัง ยกตัวอย่างนัดก่อนที่เขาตามหลัง เวสต์บรอมวิช 0-3 ก็สงสารหมอนั่นนะเพราะเขาดูเสียใจจนนั่งจ๋อยที่เก้าอี้สำรอง “
“เรื่องของการเล่นฟุตบอลผมไม่มีอะไรจะสอนเขา หมอนั่นน่ะรู้จักฟุตบอลตั้งแต่หัวจรดเท้า เป็นโค้ชเลือดใหม่ที่แววดีจริงๆ – ก็อยากฝากให้คิดในความเห็นส่วนตัวนะจงไปยืนโหวกเหวกข้างสนามเมื่อทีมคุณตามหลัง กลับกันหากขึ้นนำอยู่ค่อยไปนั่งหล่อๆที่ซุ้มสำรอง”
ด้าน แลมพาร์ด ก็ไม่ติดใจลูกพี่เก่าบอกเป็นอารมณ์ร่วมระหว่างแมตช์เช่นกัน
“เราทำอะไรสนุกๆกันที่เขตเทคนิค ผมยังรู้สึกดีกับ โชเซ่ อย่างเรื่องซึ่งเกิดคิดว่าแกคงเข้าใจผิดนึกว่าผมบ่นใส่ ทั้งที่ความจริงผมเดินไปคุยกับผู้ตัดสินที่สี่ แล้วลีลาคงเยอะมากกว่าที่เขาสั่งการลูกน้องตัวเอง เรืองก็เท่าน้น”
“ผมยังคงนับถือ โชเซ่ มากๆ เรื่องที่ด่ากันข้างสนามไม่เอามาติดใจ คิดว่าที่แกหัวเสียเพราะผลงานครึ่งแรกไม่ได้ดั่งใจ ทั้งนี้ในเกมอาจเขม่นกันแต่ตอนจบแมตข์ทุกอย่างออกมาดี ความสัมพันธ์เช่นนั้นระหว่างเราไม่เปลี่ยนไป”
ก็จริงอย่าง แลมพาร์ด บอกสื่อมวลชนเพราะเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดเขาและ มูรินโญ่ มีภาพจับมือคืนดี