โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ช เชลซี เปรียบเทียบสถานะสโมสรกับกองกลาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ว่ามาจนสุดทางแล้ว แม้พยายามรั้งแค่ไหนแต่ใจนักเตะลอยไป บาร์เซโลน่า การยื้อต่อก็ป่วยการ
แนวรับ ‘สิงห์บลูส์’ คงเปลี่ยนหน้าตาอย่างมากเพราะ 3 แข้งหมดสัญญาออกไปได้แก่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และกัปตัน อัซปิลิกวยต้า
ซึ่งเคสของดาวเตะสแปนิชทางสโมสรพยายามทุกทางเพื่อหว่านล้อมให้เล่นด้วยกันต่อ ทว่าเจ้าตัวยืนกรานต้องการสวมเครื่องแบบ ‘อาซูลกราน่า’ ดังนั้นก็เปรียบเหมือนหนุ่ม-สาว ขึ้นชิงช้าสวรรค์หมดรอบแล้วไม่สามารถนั่งเคียงข้างกันเพื่อชมความงามของวิวด้านบนได้อีก
“เรามีการพูดคุยเรื่องเหล่านี้มากมาย เพราะผมคิดว่าความรู้สึกมันเหมือนว่าเขาได้แชมป์ครบทุกอย่าง หลังคว้าถ้วยคลับ เวิลด์ คัพ ดังนั้นผมจึงเข้าใจความคิดพวกนี้ได้ว่ามันอาจเป็นวัฎจักรที่จบลง” ทูเคิ่ล กล่าว
“นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสร ซึ่งเขาเคยค้าแข้งให้กับเจ้าของคนปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้นบางทีมันอาจจะทำให้เขายิ่งคิดถึงสถานการณ์หนักขึ้น”
“การต่อสัญญาอัตโนมัติของเขาเข้ามาในเวลาเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวก็รักสโมสร เขารักความท้าทายและรักการได้อยู่ที่นี่ ‘อัซปิ’ คือกัปตันของเรา เรายังคงพูดคุยกันอยู่ และในบางจุดเราก็มีความเห็นแก่ตัว เพราะเราไม่ได้มีความรับผิดชอบที่จะต้องไปแก้ไขปัญหาของสโมสรอื่นๆ หรือทำตามความต้องการของสโมสรอื่น”
“จากความจริงที่เราต้องเสียกองหลังคนสำคัญไปแล้ว นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุดในการคิดเรื่องที่ต้องเสีย ‘อัซปิ; ไปถึงแม้ว่าผมจะเข้าใจมุมมองส่วนตัวของเขา ในบางจุด หากว่าคุณเป็นตำนานซึ่งเขาเป็นแบบนั้น คุณคู่ควรที่จะได้รับการพิจารณาเรื่องนี้เป็นครั้งที่ 2 จากตัวผมและสโมสร เพื่อดูว่าอาจมีข้อยกเว้นสำหรับกฎและเราก็ยังอยู่ในกระบวนการนี้”
“ผมหวังจริงๆว่าเขาจะอยู่ต่อ เจ้าตัวก็ทราบเรื่องนี้ดี แต่เรายังคงพูดคุยกันเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด”
อนึ่งการลงสนามของ อัซปิลิกวยต้า เข้าเกณฑ์ขยายอออปชั่นให้อีก 1 ปีทว่าสโมสรก็เลือกตอบแทนความภักดีกว่า 10 ของนักเตะที่ลงสนามกว่า 474 นัดรวมทุกรายการ