แกรี่ เนวิลล์ นักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ ถอดบทความเรื่องพ่อแม่รังแกฉัน (บาป 14 ประการของบิดามารดา) มาเปรียบเทียบเรื่องที่เกิดกับ เชลซี ว่าอดีตเฮดโค้ชที่เพิ่งโดนปลดอย่าง แกรม พ็อตเตอร์ คือลูกส่วนเจ้าของทีม ท็อดด์ โบห์ลี่ เป็นผู้ปกครองซึ่งสักแต่ฟาดเงิน
พ็อตเตอร์ คือเฮดโค้ชคนที่สองของ ‘สิงห์บลูส์’ ฤดูกาลนี้ซึ่งโดนไล่ออกต่อจาก โธมัส ทูเคิ่ล เมื่อต้นซีซั่น ทั้งหมดเกิดในยุคเจ้าของสโมสรบ้าดีเดือด โบห์ลี่
ซึ่งในมุม เนวิลล์ เห็นว่าความเละเทะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาลนี้มาจากนโยบายซื้อแหลกของ โบห์ลี่ ที่สะเปะสะปะ ไม่ได้ปรึกษาผู้ปฏิบัติงานถึงความจำเป็นเรื่องจำนวนและตำแหน่งทับซ้อนแค่ไหน
เปรียบไปเหมือนพ่อแม่รังแกฉัน สักแต่ให้เงินแต่ไม่เคยสอนการเป็นคนที่ดีเพื่อมีชีวิตรอดในสังคม
“โดยทั่วไปการที่เจ้าของทีมจะเด้งเฮดโค้ชมันได้อยู่บนพื้นฐานของ 24-48 ชั่วโมงหลังผลการแข่งขันเกมล่าสุด แต่มันต้องให้ความสำคัญต่ออารมณ์มวลรวมช่วง 2-3 สัปดาห์หรือรอบเดือนหลัง” เนวิลล์ แสดงความเห็น
“ผมคิดว่าถ้าพวเขาอยู่ในสถานการณ์แบบคนทั่วไปหรือมีแนวคิดตามหลักสากล ทาง เชลซี คงสั่งเช็คบิลตั้งแต่ก่อนเบรกทีมชาติเพื่อมีเวลาสำหรับหาคนมาแทน, เตรียมรับมืองานข้างหน้า”
“กระทั่งผลเมื่อวันเสาร์ (แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2) มันคงช็อคพวกเขามากๆ ไม่ใช่ผลอย่างที่คาดหวัง”
“กำลังจะรับมือ ลิเวอร์พูล กลางสัปดาห์ ยังไงก็ต้องปราบ วิลล่า เสริมขวัญก่อน แต่เมื่อไม่สำเร็จ เจ้าของก็เห็นว่าต้องเปลี่ยนแปลง”
“สถิติผลงานของ พ็อตเตอร์ ไม่ดีเด่ แต่สิ่งที่เกิดก็เหมือนเจ้าของทีมกลืนน้ำลายเมื่อเคยพูดไว้ก่อนนี้ว่าเป็นโปรเจคต์ระยะยาว”
“ถ้าจะโทษคงต้องบอกเป็นตัวเจ้าของทีมเองที่ ที่คว้าผู้เล่นใหม่มาเต็มไปหมด”
“ผมอธิบาย เชลซี ว่าเป็นทีมอันยุ่งเหยิงเมื่อต้นซีซั่น แล้วก็ยังไม่คิดเปลี่ยนใจ พวกเขาใกล้เคียงเกมฟุตบอล แมเนเจอร์, เหมือนเด็กที่หลงไปในร้านลูกอม แล้วก็ไม่รู้ดีว่าควรหยิบชิ้นไหน กรณีที่เกิดขึ้นนี้นำไปสู่หายนะในบั้นปลาย”
เชลซี อัดฉีดตลาดซัมเมอร์ 2022 มูลค่า 248 ล้านปอนด์ และอีก 323 ล้านปอนด์เมื่อม.ค.2023 มูลค่ารวมมากกว่า เซเรีย อา อิตาลี, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส สี่ลีกชั้นนำยุโรปซื้อรวมกันเสียอีก