เจมี่ คาร์ราเกอร์ นักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ นำสถิติจากเกม เซาธ์แฮมป์ตัน เสมอ เชลซี 1-1 มาหักล้างคำวิจารณ์ออกสื่อฯของเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล ต่อกองกลางหนุ่ม คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ว่าขี้เกียจวิ่งนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แล้วพอพูดที่แจ้งเช่นนี้อาจส่งผลเสียตามมาในระยะยาว
เกมที่ เซนต์.แมรี่ส์ ทาง ฮัดสัน-โอดอย ได้ลงสนามต้นครึ่งหลังในตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวา แต่โลดแล่นแค่ 30 นาทีก็โดนเปลี่ยนออกให้ ฮาคิม ซิเย็ค ลงมาแทนทั้งที่ไร้อาการเจ็บ
ซ้ำร้ายหลังเกมบอส ทูเคิ่ล ก็ด่าปีกวัย 20 ปี ว่าทัศนคติการเล่นไม่ดี “ผมไม่พอใจกับภาษากาย ทัศนคติของเขากับบอล และผมรู้สึกว่าเขาไม่พร้อมที่จะให้พลังงานกับทีม มันเป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับเขาในวันนี้ แน่นอนวันพรุ่งนี้มันจะถูกลืม”กุนซือดอยช์กล่าวไว้เมื่อสุดสัปดาห์
แต่ ‘คาร์ร่า’ มองว่า ทูเคิ่ล ยกกรณีนี้มาตำหนิแข้งผู้ดีนั้นไม่ถูกต้อง เพราะหากว่าถึงความขยัน ฮัดสัน-โอดอย ไม่น้อยหน้าใครในทีม
“ผู้จัดการทีมถูกจ้างมาให้ตัดสินใจและคว้าผลการแข่งขัน” การกล่าวผ่านรายการ ‘มันเดย์ ไนท์ ฟุตบอล’
“หาก ทูเคิ่ล รู้สึกว่าเปลี่ยนตัวแล้วสามารถเพิ่มโอกาสให้พวกเขาชนะเกม แล้วช่วย เชลซี มีลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ผมคงไม่มีอะไรข้องใจกับเรื่องนั้น”
“ฮัดสัน-โอดอย เสียบอล 7 ครั้งในเกม จากการรับลูก 18 หน แล้วนั่นเองที่ผจก.ทีมมองว่าเป็นปัญหา โดยมีสองจากทั้งหมดลั่นง่ายๆวิ่งไปแต่ตัว ทว่าบอลไม่ไปด้วย”
“แต่เมื่อผจก.ทีมบอกว่าเขาไม่พอใจเรื่องเด็กขี้เกียจวิ่งบี้ป้องกันโต้กลับ… ผมกลับไม่สามารถมองเหมือนกันว่านั่นคือปัญหาใหญ่”
สถิติบอก ฮัดสัน-โอดอย วิ่งบี้มากถึง 8 ครั้งในช่วงครึ่งชั่วโมงบนสนามเกมกับ ‘นักบุญ’ โดยช่วงเวลาเดียวกันมีแค่ ติโม แวร์เนอร์ บี้มากกว่าที่ 11 ครั้ง
“ปัญหาที่ผมมองเขาไม่ใช่เรื่องเปลี่ยน คัลลั่ม ออก หรือเรื่องที่พูดหลังจบเกม แค่เห็นว่าไม่ถูกต้องในการเปลี่ยนหมอนั่นออก” คาร์ราเกอร์ เสริม
“เราไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุผลจริงๆคืออะไรแน่ แต่เพราะผจก.ทีมอาจเห็นอะไรสักอย่างแล้วอยากเปลี่ยนแปลงเลย เพียงแต่วิธีการที่ปฏิบัติมันหักหน้ากันไปหน่อย”
“มันคือสารที่ส่งถึง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย รวมถึงคนอื่นที่ลงมาจากม้านั่งสำรอง พวกเขาต้องมีอิทธิพลต่อเกมทันที แล้วนัดที่ผ่านไประดับคงไม่มากพอให้ถูกใจ ทูเคิ่ล”
ส่วนความเห็นจาก คริส ซัตตัน คอลัมนิสต์ ‘เมล ออนไลน์’ ต่อกรณีนี้มองว่าโค้ชวัย 47 ปีกำลังทำบรรยากาศทีมเป็นพิษ