ลา ลีกา สเปน ตกเป็นที่วิจารณ์สนุกปากจากนักวิเคราะห์ฝั่งอังกฤษว่ากำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมถอย ซึ่งมันสะท้อนออกมาในเกมชปล.ที่ แอต.มาดริด จ่าฝูงลีกกระทิงดุ ถูก เชลซี อันดับห้าพรีเมียร์ลีก ผู้ดี ขย้ำไป 1-0 แถมเก็บอะเวย์โกลอีกต่างหาก
เกมที่สนามกลาง อาเรน่า นาติโอนาล่า กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย วานนี้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นฮีโร่ของ ‘สิงห์บลูส์’เมื่อตีลังกายิงประตูโทนสุดสวย ส่วนค่าสถิติทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ข่มบานทั้งการครองบอล 63%:37%, โอกาสทำประตู (ตรงกรอบ) 11(5) : 6(0) หรือเตะมุม 6:5
การชนะทั้งผลการแข่งขันและภาพรวมของเกมนี่เองทำให้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ โจ โคล แห่ง ‘บีที สปอร์ต’ วิเคราะห์ว่าลีกสูงสุดสเปนคงเสื่อมมนต์แล้ว
“ผลการแข่งขันเกมนี้คือภาพสะท้อนว่าปัจจุบัน ลา ลีกา สเปน แย่แค่ไหน ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อน” เฟอร์ดินานด์ เปิดคนแรก
“ เชลซี เหมือนผลงานจะเข้าฝัก, จบสกอร์เด็ดขาด และแทบไม่ถูกทดสอบใดเลยหลังจากขึ้นนำแล้ว ปัจจัยเรื่องสนามแข่งก็อีกเรื่อง พวกเขาหาประโยชน์จากตรงนี้ด้วยที่คู่แข่งลดความเฉียบคมลงไปด้วย”
“เมื่อคุณเล่นฐานะทีมเยือนเกมยุโรปแล้วเก็บชัย 1-0 สามารถกลับบ้านไปเกาพุงได้เลย แม้มีความพยายามเปิดเกมของ แอต.มาดริด แต่ก็ต้องกลับไปแพ็คแน่นเหมือนเดิม ซึ่งหากพวกเขามืออาชีพมากพอก็คงเปิดโหมดลุย ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่ ‘ตราหมี’ ที่เราเคยรู้จัก”
ด้าน โจ โคล ก็อัดไม่ไว้หน้าเช่นกัน “เชลซี ทำให้เกมเมื่อคืนเป็นอีกแมตช์ปกติ แทบไม่เปิดโอกาส แอต.มาดริด ตอบโต้ใส่ แท็คติกยอดเยี่ยม หากนั่นคือทีมหัวตาราง ลา ลีกา มันก็นับว่าเล่นอย่างเลื่อนลอยแล้ว”
“แอตเลติโก ทีมนี้เหมือนตกอยู่ในเงาตัวเอง ทีแรกคิดว่า เชลซี จะงานงอกเพราะขาด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่กลายเป็นว่าครองเกมเบ็ดเสร็จ ครองบอลส่วนใหญ่ และประคองตัวรอดออกมา”
“ผมแปลกใจที่ ดีเอโก้ ซีเมโอเน่ ไม่รีบเปลี่ยนทีมแต่เนิ่นๆ ทั้งมองไม่เห็นว่าจะมาสร้างพิษสงอะไรได้เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์”
ต้องมีทีมจากสเปนอย่างน้อย 1 สโมสรในรอบชิงฯ ชปล.ระหว่าง 2014-2018 แต่สองซีซั่นหลังหายหน้า