นับตั้งแต่ฟุตบอลกลับมาแข่งขันหลังช่วงล็อคดาวน์ ฮาแวร์ตซ์ ลงสนามรวม 17 นัดให้กับบายเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, เชลซี และทีมชาติเยอรมนี โดยยิงไป 11 ประตู และนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาแอสซิสต์ไปแล้ว 4 ลูก
นัดล่าสุดที่ทีมชาติเยอรมนีเสมอกับตุรกี 3-3 ในสัปดาห์นี้ แอสซิสต์แรกเป็นการแทงบอลทะลุแนวรับจากพื้นที่ว่างทางด้านขวา ส่วนลูกที่สองเป็นฟุตเวิร์คที่รวดเร็วบริเวณกรอบเขตโทษ
สำหรับลูกหลังอาจทำให้หลายคนนึกถึงการประสานงานที่เนียนตาในจังหวะที่แข้งวับ 21 ปีทำชิ่งกับคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ในเกมที่เราคัมแบ็คกลับมาเสมอกับเวสต์ บรอม ขณะที่แอสซิสต์อีกหนึ่งลูกของ ฮาแวร์ตซ์ กับเชลซีเกิดขึ้นในรายการคาราบาว คัพ ที่แสดงให้เห็นถึงวินัยในการเล่นเกมรับที่เขาสไลด์แย่งบอลจากคู่แข่งก่อนไปถึงรอสส์ บาร์คลี่ย์ ยิงให้สกอร์เป็น 3-0
การสร้างโอกาสและการจบสกอร์ ถือเป็นสิ่งที่ทำให้แข้งดาวรุ่งรายนี้กลายเป็นการเสริมทัพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับขุมกำลังของแฟรงค์ แลมพาร์ด โดยแน่นอนว่าสิ่งดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสถานะการเป็นตัวจริงในทีมอินทรีเหล็กภายใต้การนำของโยอาคิม เลิฟในช่วงไม่กี่เดือนหลังจากนี้ การออกสตาร์ตในเกมกับตุรกี ถือเป็นแมตช์ที่ 8 ที่ฮาแวร์ตซ์ลงรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งนักเตะมีความหวังสูงในการลงเล่นให้มากกว่านี้
‘ผมเดินทางไปที่เมืองโคโลญจ์บ้านเก่าพร้อมความคาดหวังหลายอย่างสำหรับการแข่งขัน’ เขากล่าว ‘สองปีของผมกับทีมชาติ ผมไม่ได้ลงสนามบ่อยนักแต่ผมยังอายุน้อยมาก
‘ยังมีการแข่งขันรออยู่อีกเยอะซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมใจเย็นมาเสมอ ผมมีความมั่นใจมากพอในการลงเล่นให้กับเยอรมนี’
แลมพาร์ด เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมอบเวลาให้มิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้ได้ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งฮาแวร์ตซ์เห็นด้วยว่าช่วงเวลาของการทำตัวให้คุ้นเคยกับความแตกต่างของพรีเมียร์ ลีก เช่นเดียวกับชีวิตนอกสนามคือสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่ผ่านมาถือว่าดีมากและนักเตะก็ยืนกรานว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เขาพร้อมจะแสดงออกมาให้เห็น
‘มันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผมครับ โดยเฉพาะกับการที่พรีเมียร์ ลีกเป็นลีกที่มีความแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง’ เขาอธิบาย ‘ที่นี่มีความดุดันมากกว่า ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ลงสนามใหม่ ๆ เลย
‘ช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าโอเคสำหรับผมนะ แต่ผมคิดว่าศักยภาพของการพัฒนาให้สูงขึ้นยังมีอยู่อีกเยอะเลย ผมอยากจะหาประโยชน์จากสิ่งดังกล่าวในช่วงไม่กี่สัปดาห์และไม่กี่เดือนหลังจากนี้
‘แฮตทริค [เกมกับบาร์นสลี่ย์] ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวผม ช่วงเริ่มต้นมันค่อนข้างจะยากนิดหน่อยเพราะผมเพิ่งซ้อมกับทีมได้สัก 5 หรือ 6 วัน จากนั้นก็ลงเล่นนัดแรกทันที อีกอย่างที่สำคัญคือผมต้องอำลาครอบครัวและสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยออกมา แน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องใช้เวลาเพื่อทำให้มันถูกต้อง’