เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ แกรี่ เนวิลล์ 2 นักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ ฉงนกับฝ่ายฟุตบอลเทคนิคของ เชลซี เพราะจุดอ่อนเห็นทนโท่ว่าขาดกองหน้าแบบโป้งปิดบัญชี แต่กลับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเกือบ 600 ล้านปอนด์โดยไร้ตำแหน่งดังกล่าวเสริม นำมาซึ่งฟอร์มดีแต่ป้อล่อไม่เป็นถึงทุกวันนี้
เทรนด์เล่นแบบไร้หอกเป้ามีมาตั้งแต่อดีตเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งนั่นคือหนึ่งจุดที่ทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกฝืดจนตกเก้าอี้ ครั้นส่งไม้ผลัดให้ แกรม พ็อตเตอร์ ก็อาการเดิมมีหลายนัดเล่นดีกว่าคู่แข่งมากแต่เจาะไม่เข้า บั้นปลายถึงแพ้เกม
ล่าสุด บรูโน่ ซัลตอร์ รักษาการเฮดโค้ชก็เผชิญปัญหาเดิมๆ โอกาสบานตะไทแมตช์พบ ลิเวอร์พูล วานนี้ แต่ทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์, ชูเอา เฟลิกซ์ หรือ มาเตโอ โควาซิช ยิงนกตกปลาบอลจบเจ๊า 0-0
นั่นทำให้ 2 กูรูดังเห็นพ้องว่าหากแบ่งสัก 1-ส่วน-6 ของที่จ่ายสองรอบตลาดให้หอกเป้าเจ๋งๆสักคน ‘สิงห์บลูส์’ คงไม่กระเสือกกระสนแถวกลางตาราง
“เชลซี สร้างโอกาสลุ้นประตูมากมาย เป็นไปได้อย่างไรจับจ่ายกว่า 600 ล้านปอนด์แต่ไม่มีหอกเป้าสักคน เหลือเชื่อจริงๆ” คาร์ราเกอร์ ปูเรื่อง
“มันคือผลงานที่ดีเกมพบ ลิเวอร์พูล ทางเจ้าบ้านควรชนะ 2-0 เมื่อดูจากโอกาสที่พวกเขามี”
ขณะที่ เนวิลล์ ก็เห็นตรงกันว่าหากมีหอกคมๆค้ำให้ เชลซี คงไล่อัดคู่แข่งกระเจิงไปแล้ว เผลอๆลุ้นหัวตาราง
“เชลซี เป็นทีมที่ดีกว่าอักโข แต่ก็เรื่องเก่าเล่าใหม่พวกเขากลับไม่ได้ไปไม่ถึงเมื่อขาดหอกเป้าอาชีพ”
“ลงทุนมหาศาลแต่ไหงไร้ตำแหน่งเบอร์#9 และแทบไม่มีใครเชื่อในเมื่องานของเขาคือพังตาข่ายให้ได้”
“พวกเขามีผู้เล่นที่เปี่ยมสุขเมื่อทำประตูได้ แต่กลับไม่ได้รู้สึกว่าจะเป็นตัวปิดบัญชีส่งบอลผ่านผู้รักษาประตูให้ตุงตาข่าย”
“ฝั่ง ลิเวอร์พูล ก็เล่นต่ำจากมาตรฐานที่ดีสุดของตัวเอง หากย้อนไปถึงเกมที่เพิ่งแพ้ แมนฯ ซิตี้ การเล่นได้แค่นี้แล้วมีแต้มออกไปคงมีความสุขกว่าเจ้าบ้าน ตรงกันข้ามทาง เชลซี คงหงุดหงิด”
เชลซี ทำไปแค่ 29 ลูกฤดูกาลนี้ โดยประวัติศาสตร์สโมสรมีแค่สองซีซั่นที่ทำได้ต่ำกว่าคือ 1921-22 (23 ลูก) และ 1923-24 (16 ลูก)