ตีโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมนีของ เชลซี ยอมรับการเผชิญช่วงเวลาที่ทำประตูไม่ได้นานๆ ถือเป็นช่วงที่จิตตกและหัวเสียสุดๆ แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย
แวร์เนอร์ ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาอยู่กับ เชลซี ค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว หลังผลิตประตูเป็นกอบเป็นกำให้ทีมดังบุนเดสลีกา จนบอร์ดบริหารของ สิงโตน้ำเงิน ต้องทุ่มเงินซื้อมาให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ใช้งาน แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล ดูเหมือนอะไรๆ จะเริ่มดีขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย จากผลงาน 5 เกมหลังสุด ที่มีหนึ่งประตูกับสามแอสซิสต์
“รอยยิ้มไม่ได้อยู่บนใบหน้าผมตลอดเวลา แต่คุณต้องยิ้มอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อคุณไม่มีความสุขแล้ว คุณก็จะไม่สนุกกับเกมฟุตบอล และคุณมักจะโกรธหรือหัวเสียเสมอ เมื่อคุณไม่สามารถกลับไปเล่นในฟอร์มที่ดีเหมือนแต่ก่อนได้”
“นั่นคือปัญหาของผม ผมต้องฝึกซ้อมอย่างไร แต่ผมต้องคิดบวกเสมอ ต้องไม่คลุ้มคลั่ง นั่นคือก้าวต่อไปที่ผมจะกลับไปเป็น ตีโม คนเดิม เบื้องหลังของรอยยิ้ม การผ่านไปหลายต่อหลายวันโดยยิงประตูไม่ได้ และบางครั้งทีมก็แพ้ แน่นอน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย แต่รอยยิ้มบนใบหน้าคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไป”
“ช่วงเวลาที่ผมยิงประตูไม่ได้คือช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในอาชีพของผม เพราะผมไม่เคยพลาดโอกาสสำคัญๆ มากมายขนาดนี้ ผมไม่เคยปืนฝืดนานขนาดนี้มาก่อน ผมจึงมีความสุขมากที่จบเรื่องนั้นได้เสียทีเมื่อสองเกมที่แล้ว”
“เมื่อผมมองย้อนกลับไปช่วงครึ่งปีกับ เชลซี มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของผมในอาชีพ แต่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เมื่อคุณผ่านช่วงเวลาที่ยิงไม่ได้ คุณได้เรียนรู้บางอย่างในตัวเอง”
“คุณเรียนรู้ได้มาก ในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนั้น และมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผมที่ได้เรียนรู้ จากช่วงเวลาแย่ๆ ที่คุณได้เรียนรู้ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว” แวร์เนอร์ ให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ แพท เดวิสัน ของ สกายสปอร์ต