คริสเตียน พูลิซิช แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากเกมชปล.ที่ เชลซี แพ้ ปอร์โต้ 0-1 ในรอบก่อนรองฯ นัดสอง ชปล.แต่ยังเข้ารอบตัดเชือกด้วยประตูรวม 2-1 เปิดใจว่าตัวเองให้ความสำคัญกับความสำเร็จทีมเหนือกว่าความจองหองเรื่องตัวรุก จะช่วยป้องกันไม่ได้
เว็บไซต์ ยูฟ่า นิยามผลงานของ พูลิซิช ว่าพลังงานล้นเหลือเป็นตัวป่วนกองหลัง ปอร์โต้ ได้ทั้งเกม แต่ก็ไม่เกี่ยงงอนเวลาถูกเรียกร้องให้ช่วยป้องกัน
ซึ่งเรื่องนี้ดาวเตะอเมริกันยอมรับว่ามาจากทัศนคติเห็นทีมสำคัญกว่าผลงานส่วนบุคคล “เราทราบว่าคู่แข่งต้องมาพยายามกดดันใส่แน่นอน เมื่อพวกเขาตามหลัง 2 ประตูตั้งแต่เลกแรก ดังนั้นก็ทำการบ้านรับมือ ปอร์โต้ ที่พร้อมบวกแต่แรก ณ จุดนี้จึงไม่วิตกใดๆ” ดาวเตะวัย 22 ปีกล่าว
“ผมไม่คิดว่าเราตระหนกใดๆ กองหลังเล่นนิ่งมาก แทบไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งมีลุ้นจะแจ้ง พวกเขาอาจยิงประตูสุดสวยแต่ก็เท่านั้น เรามีความสุขกับเรื่องที่ได้ทำลงไป”
“พูดถึงจุดเด่นผมมันมากกว่ามิติเกมรุก ก็อย่างที่ได้แสดงออกมาให้เห็นวันนี้ คุณจำเป็นต้องทำงานหนัก ช่วยป้องกันให้ดีที่สุดไม่ว่าจะทางใด ผมอาจมีพลาดหนึ่งครั้งครึ่งหลัง แต่คู่แข่งทำอะไรไม่ได้”
“ทีมเราเวลานี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ เป็นกลุ่มแข้งที่เชื่อมั่นอย่างมาก เราตื่นเต้นไม่ว่าคู่แข่งรอบต่อไปเป็นใคร เราก็จะสู้หาทางชนะให้ได้”
เชลซี ผ่านเข้ารอบรองฯ ชปล.อีกครั้งตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 รอพบผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ลิเวอร์พูล