Author: Athipdapzaza

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ชี้ว่าการลงโทษ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี จะต้องมีการดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหา มีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้มีการจัดการกับ “เสี่ยหมี” ที่ถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียที่ส่งกองทัพบุกโจมตี ยูเครน ที่เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก อย่างไรก็ตามจากการเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร อบราโมวิช ที่อังกฤษยังไม่มีการจัดการในตอนนี้โดยทาง จอห์นสัน ชี้ว่าจำเป็นต้องทำด้วยความรัดกุม “พวกเราคงไม่มีใครอยากอาศัยในประเทศที่สามารถยึดบ้านของคุณไปได้โดยไม่ต้องมีการพิสูจน์และกระบวนการขั้นสูง” จอห์นสัน กล่าว “ไม่มีประโยชน์ที่จะพูด, ใช่ เรากำลังจัดการแล้วจากคุณ คุณก็เจอกับกำแพงของทนาย ดังนั้นเราต้องจัดการอย่างเหมาะสม” “ขณะเดียวกันเราพยายามที่จะไม่ทำสิ่งนั้นกับบุคคลเพียงคนเดียว บรรทัดบนสุดของพัสดุในวันจันทร์ที่จะดำเนินการคือมาตรการที่คุณมีต่อผู้มีอำนาจแต่ละรายในยุโรปซึ่งจะทำให้เราสามารถจับพวกเขาได้เช่นกัน”

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางของเก่งของ เชลซี ยอมรับว่าไม่ทันตั้งตัวหลังจาก โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรประกาศขายทีม ตลอดระยะเวลา 19 ปีภายใต้ยุค “เสี่ยหมี” กวาดแชมป์มากมายพร้อมยกระดับทีมเป็นสโมสรระดับแถวหน้าของวงการลูกหนัง แต่จากปัญหาการรุกราน ยูเครน ของ รัสเซีย นำโดยประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่เจ้าของทีม “สิงห์บลูส์” ถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทำให้เกิดกระแสกดดันจนเจ้าตัวออกมาประกาศดังกล่าว มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสยอมรับว่าตนเองและเพื่อนร่วมทีมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือการทำผลงานให้ดีที่สุดเท่านั้น  “มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมพร้อมรับเลย, มันรวดเร็วมาก” ก็องเต้ กล่าวผ่านสกาย สปอร์ตส์ “แต่สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้เพราะเราควบคุมสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ก็คือทำผลงานอย่างดีที่สุดแบบที่เราทำมาเสมอ” “มันหมายความว่าเล่นฟุตบอลอย่างดีที่สุด (ในระดับที่เป็นไปได้), เพื่อตัวเราเอง, เพื่อสโมสร, เพื่อแฟนบอลและดูว่าสิ่งต่างๆจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราควบคุมได้”

มูห์ซิน บายรัค มหาเศรษฐีชาวตุรกีอ้าวว่าเขากำลังเจรจากับทนายความของ โรมัน อบราโมวิช เกี่ยวกับการขอซื้อสโมสร เชลซี หลังจาก ‘เสี่ยหมี’ เพิ่งประกาศขายทีมเมื่อต้นสัปดาห์ อบราโมวิช ถูกกดดันอย่างหนักหลังผลกระทบของการที่รัสเซียรุกรายใส่ยูเครน โดยเมื่อวันพุธเขาได้ประกาศว่าต้องการขาย สิงห์บลูส์ หลังจากเกือบสองทศวรรษในฐานะเจ้าของทีม มหาเศรษฐีชาวรัสเซียตัดสินใจยุติ 19 ปีที่ปกครองถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ท่ามกลางการรุนรานยูเครนของประเทศเขา ซึ่งทำให้รัฐบาลอังกฤษตั้งคำถามถึงการคว่ำบาตรเขา ด้วยเหตุนี้ อบราโมวิช จึงต้องผ่อนถ่ายทรัพย์สินทั้งหมดในลอนดอนออกก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะลงโทษเขาได้ รวมถึงสโมสร เชลซี อันเป็นที่รักของเขาด้วย นักธุรกิจชาวอเมริกัน และชาวสวิส อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ และ ฮันส์ยอร์ก วีสส์ โผล่มาพร้อมข่าวลือข้อเสนอ 3 พันล้านปอนด์ แต่ตอนนี้ บายรัค ได้อ้างว่าธงของตุรกีจะไปโบกสะบัดในลอนดอนเร็วๆ นี้ “เรากำลังเจรจาเงื่อนไขขอซื้อ เชลซี กับทนายของ โรมัน อบราโมวิช” บายรัค กล่าว “เราอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อเซ็นสัญญา เราจะโบกธงชาติตุรกีในลอนดอนเร็วๆ นี้” “เราทำข้อเสนอแล้ว เพราะสงครามของรัสเซีย และยูเครนกำลังเกิดขึ้นในโลก…

ดีแคลน ไรซ์ กองกลาง เวสต์แฮม แสดงความปรารถนาที่จะได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเร็วที่สุด ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อแย่งท็อปโฟร์ของ ขุนค้อน ในฤดูกาลนี้ ไรซ์ วัย 23 ปี กำลังช่วยให้ เดอะ แฮมเมอร์ส ไล่ล่าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก โดยสร้างผลงานที่โดดเด่นมากมายจนกลายเป็นหัวใจหลักในแผงมิดฟิลด์ ทีมของ เดวิด มอยส์ มีคะแนนห่างจากทีมอันดับ 4 อยู่ 2 แต้ม ในช่วง 11 นัดสุดท้ายของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม หาก เวสต์แฮม พลาดโอกาสนี้ พวกเขาก็เสี่ยงกับการสูญเสีย ไรซ์ ออกไปในช่วงซัมเมอร์ โดย เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างก็ให้ความสนใจดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ ซึ่ง ขุนค้อน ตั้งค่าหัวเขาไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ เมื่อถูกถามถึงความปรารถนาที่จะเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ไรซ์ ซึ่งได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นแห่งปีของพรีเมียร์ลีก จากงานลอนดอน ฟุตบอล อะวอร์ด เมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้บอกกับ…

ลู้ตฟี้ มานซูร์ มหาเศรษฐีชาวอียิปต์เป็นเจ้าสัวรายล่าสุดที่ออกมาปฏิเสธความสนใจเข้าเทกโอเวอร์กิจการสโมสร เชลซี หลังจากไม่กี่ชั่วโมงก่อน จิม แรทคลิฟฟ์ เจ้าสัวที่มั่นคั่งสุดแห่งสหราชอาณาจักรบอกผ่านแล้ว ‘เสี่ยหมี’เจ้าของปัจจุบันเพิ่งประกาศขายทีมซึ่งตัวเองดูแลมาเกือบ 2 ทศวรรษมูลค่าร่วม 3,000 ล้านปอนด์ เนื่องจากโดนกดดันจากนานาชาติเหตุผลสำคัญเพราะสนิทสนมปธน. วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผู้ออกคำสั่งให้กองทัพเข้าเปิดสงครามเต็มรูปแบบกับ ยูเครน     แล้วถึงตอนนี้ก็มีกลุ่มทุนหลายเจ้าสนใจเข้าเทกโอเวอร์โดยมีการเสนอข่าวว่า มานซูร์ ซึ่งร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน อยากเป็นใหญ่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วย  แต่ล่าสุดโฆษกของเขาได้ชี้แจงแล้วว่าไม่สนใจทุบกระปุกกว่า 3,000 ล้านปอนด์เพื่อถือครองอาณาจักร เชลซี  “ตามที่สื่อมวลชนได้มีการเสนอข่าวความเชื่อมโยงของเรานั้น – ก็อยากชี้แจงให้ชัดเจนว่าเรามิได้ดำเนินการยื่นซื้อสโมสรฟุตบอล เชลซี ณ เวลานี้”การชี้แจงผ่าน ‘เมล สปอร์ต’ สำหรับเหตุผลที่ มิสเตอร์ มานซูร์ วัย 33 ปีถูกเชื่อมโยงคาดว่าเพราะถือครองตั๋วปีในสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์  ก็นับเป็นมหาเศรษฐีคนล่าสุดซึ่งไม่ขอเอี่ยวซื้อกิจการ ‘สิงห์บลูส์’ จาก อับราโมวิช เพราะก่อนนี้มิสเตอร์ แรทคลิฟฟ์ แห่งอาณาจักรพลังงานอันมั่นคั่งอย่าง อินีออส ก็ไม่อยากยุ่ง

โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ช เชลซี เผยความในใจแบบไม่ปิดบังว่าต้องการทำหน้าที่นี้ต่อไป แม้สโมสรจะมีการเปลี่ยนถ่ายมือเจ้าของหรือผู้บริหารก็ตามเพราะลงตัวอย่างดีกับขุมกำลังปัจจุบัน โรมัน อบราโมวิช เจ้าของปัจจุบันเพิ่งประกาศขายทีมซึ่งตัวเองดูแลมาเกือบ 2 ทศวรรษมูลค่าร่วม 3,000 ล้านปอนด์ เนื่องจากโดนกดดันจากนานาชาติเหตุผลสำคัญเพราะสนิทสนมปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผู้ออกคำสั่งให้กองทัพเข้าเปิดสงครามเต็มรูปแบบกับ ยูเครน  แล้วถึงตอนนี้ก็มีกลุ่มทุนหลายเจ้าสนใจเข้าเทกโอเวอร์ ซึ่งแน่นอนต้องเอาคณะทำงานชุดใหม่สู่สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนแม้แต่เฮดโค้ชอย่าง ทูเคิ่ล เก้าอี้ก็เริ่มสั่นคลอน  ดังนั้นบอสวัย 48 ปีจึงชิงออกตัวก่อนเลยว่าเจ้าของใหม่เป็นใครก็ตาม แต่เขาอยากคุมทีมต่อ  “ผมไม่มีปัญหาที่จะอยู่ที่นี่ต่อ” การเปิดปากในงานแถลงข่าวก่อนพบ เบิร์นลี่ย์  (5 มี.ค.) “ผมรักที่ได้ทำงานบนพรีเมียร์ลีก รักการทำงานบนประเทศอังกฤษ “ “หากเอาแค่ความเห็นส่วนตัว สโมสร เชลซี ลงตัวกับผมอย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเองรักที่อยู่กับทีมก็หวังว่าคงดำเนินต่อไป” “ต่อให้ในใจก็แอบหวั่นแต่เรื่องพรรค์นี้มักเกิดกับผจก.ทีมฟุตบอลอยู่แล้ว? ดังนั้นผมจึงฝึกฝนการใช้ชีวิตแบบต่างๆ แล้วนี่ก็คือการสงบปากสงบคำที่สุด” “แต่โดยส่วนตัวเป็นคนคิดบวกก็หวังว่าทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี”   เวลานี้ปรากฏชื่อ 3 กลุ่มเชื่อมโยงซื้อกิจการ เชลซี ได้แก่ ฮันส์ยอร์ก วิสส์ มหาเศรษฐีสัญชาติสวิส, จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวสหราชอาณาจักร และเจ้าสัวอียิปต์รายล่าสุด

แฟนบอลสโมสร เชลซี ร้อนๆหนาวๆเมื่อทราบเบื้องหลังความพยายามซื้อกิจการโดยกลุ่มของ ฮันส์ยอร์ก วิสส์ มหาเศรษฐีสัญชาติสวิส เพราะโดยเจตนาไม่คิดอัดฉีดเพื่อล่าความสำเร็จ แต่เพียงอยากมีส่วนสั่งสอน โรมัน อับราโมวิช เจ้าของเดิมฐานะมีส่วนร่วมก่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน  รายงานจาก ‘บลิค’ แท็บลอยด์แดนนาฬิกาต่อความคืบหน้ากรณี ‘เสี่ยหมี’ ประกาศขายทีมซึ่งตัวเองดูแลมาเกือบ 2 ทศวรรษมูลค่าร่วม 3,000 ล้านปอนด์ เนื่องจากโดนกดดันจากนานาชาติเหตุผลสำคัญเพราะสนิทสนมปธน. วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผู้ออกคำสั่งให้กองทัพตัวเองเข้ารุกรานชาติเพื่อนบ้านทางตะวันตก   โดยกลุ่มของนาย วิสส์ ที่ประกอบด้วย ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของแฟรนไชส์เมเจอร์ลีก เบสบอล แอลเอ ด็อดเจอร์ส แม้แสดงความสนใจอยากเทกกิจการที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ จริงๆ แต่ยากจะจ่ายในเรตที่ ‘สิงห์บลูส์’ ตั้งไว้ แล้วมูลค่าเต็มที่สำหรับประมูลสู้ก็เพียง 1,000 ล้านปอนด์  ยิ่งไปกว่านั้นมิสเตอร์ วิสส์ เจ้าสัวซึ่งร่ำรวยจากบริษัทผลิตเวชภัณฑ์ก็ไม่ใช่แฟนฟุตบอลตัวยงแต่อย่างใด เหตุที่ตกกระไดพลอยโจนโดนชักชวนซื้อ เชลซี ก็เพราะอยากสั่งสอนพันธมิตรของ ปูติน ฐานะผู้เปิดฉากสงครามว่าบนโลกไม่ได้มีเพียงพวกคุณที่มั่นคั่ง “เบื้องหลังของมหาเศรษฐี  ฮันส์ยอร์ก วิสส์ จากเพื่อนฝูงชาวสหราชอาณาจักรของข้าพเจ้าระบุว่าแกอาจเป็นคนสนใจในการแข่งกีฬา แต่ไม่ได้คลั่งฟุตบอล” บรรณธิการฝ่ายเศรษฐกิจแห่งสื่อฯดังเผย “ความจริงที่ปรากฏว่าเขาร่วมเทกโอเวอร์กิจการ เชลซี จึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ”  “เพราะในอีกทางหนึ่ง มิสเตอร์ วิสส์ เป็นคนที่ฝักใฝ่โลกตะวันตกอย่างลึกซึ้งถึงหัวใจ ต่อให้ตัวเองมีสัญชาติสวิสซึ่งมันเป็นกลางในทุกสถานการณ์ แต่หากเป็นนโยบายการเมือง, การต่างประเทศจะอิงตะวันตก” “ดังนั้นการเห็นผู้มีอิทธิพลสัญชาติรัสเซี่ยนอย่าง อับราโมวิช มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ ปูติน ผู้ออกคำสั่งเปิดสงครามเต็มรูปแบบในยูเครน มันจึงของขึ้น” “เมื่อมีโอกาสเด็ดเอา เชลซี จากขั้วตรงข้ามที่ วิสส์ ไม่นับถือ – มันก็ต้องลงมือ”  “เขาก็คงไม่ถึงขั้นเห็น เชลซี เป็นของเล่นที่จะจ่ายเงินซื้อไปอย่างนั้น มันดูเสียของเมื่อ วิสส์ เป็นถึงเจ้าของสโมสรเกรดแชมเปี้ยนส์ ลีก”  “ในเมื่อเอาเข้าจริงๆแล้วไม่ได้มีเขาฉายเดี่ยวเพื่อยื่นซื้อ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’” เบื้องหลังดังกล่าวอาจทำให้แฟนบอล เชลซี เชียร์ฝั่ง จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวสหราชอาณาจักรอีกเจ้าที่สนใจซื้อทีมเพราะรายนั้นคือสาวก ‘สิงห์บลูส์’ แถมยังถือตั๋วปีใน สแตมฟอร์ด บริดจ์

ริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอของพรีเมียร์ลีก เชื่อว่าการซื้อ-ขายสโมสร เชลซี จะเรียบร้อยก่อนเกมในบ้านนัดถัดไปที่จะเจอกับ นิวคาสเซิ่ล โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม “สิงห์บลูส์” ประกาศขายสโมสร หลังโดนกดดันอย่างหนักจากเหตุการโจมตี ยูเครน ของ รัสเซีย ซึ่งมีรายงานว่า ฮันส์ยอร์ก วีสส์ มหาเศรษฐีชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ ท็อดด์ โบห์ลี่ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐฯ หวังจะบรรลุข้อตกลงในการซื้อสโมสรโดยเร็วที่สุด ทาง มาสเตอร์ส กล่าวว่า อบราโมวิช จะขาย เชลซี ได้ก่อนเกมเหย้าพรีเมียร์ลีกนัดต่อไปของสโมสรที่จะเปิดบ้านเจอกับ นิวคาสเซิ่ล ในวันที่ 13 มีนาคม “ผมคิดว่าเร็วที่สุดที่เราเคยทำก็คือ 10 วัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะทำลายสถิตินั้นไม่ได้” มาสเตอร์ส กล่าวผ่านไฟแนนเชียล ไทม์ส บิซิเนสส์ ออฟ ฟุตบอล ซัมมิต “โดยปกติแล้วมันจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่นั่นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของข้อตกลงจริงๆและจำนวนของผู้มีโอกาสเป็นเจ้าของ” “หากข้อมูลสามารถประมวลผลได้ง่าย เข้าใจง่ายและให้คำตอบที่เหมาะสม มันก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว”

อาแมนด้า สเตฟลี่ย์ เจ้าของสโมสรร่วมของ นิวคาสเซิ่ล เผยว่ารู้สึกเศร้าที่ โรมัน อบราโมวิช ต้องแยกทางกับ เชลซี แต่ก็ชี้ว่ามีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง การบุกโจมตี ยูเครน ของ รัสเซีย ส่งผลกระทบมาถึงเกมฟุตบอลโดยเฉพาะกับ “สิงห์บลูส์” ที่มี โรมัน อบราโมวิช เป็นเจ้าของ ซึ่งถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย หลังการประกาศขายสโมสรของ “เสี่ยหมี” กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก ซึ่งทาง สเตฟลี่ย์ ก็ยอมรับว่าตนเองเศร้าที่ อบราโมวิช ต้องแยกทางกับ เชลซี แต่ชี้ว่ามีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันเศร้าใจจริงๆในวันนี้ที่มีคนกำลังจะออกจากสโมสรฟุตบอลเพราะความสัมพันธ์ที่พวกเขาอาจจะมีกับใครบางคน” สเตฟลี่ย์ กล่าว “ฉันไม่คิดว่ามันยุติธรรมจริงๆ แต่เราต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดของเราด้วยเช่นกัน”

บาร์เซโลน่า รุกคืบในการเจรจาคว้าตัว อันเดรียส คริสเตนเซ่น กองหลังของ เชลซี และ ฟร้องค์ เกสซีเย่ กองกลางของ เอซี มิลาน ร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เซนเตอร์ของทีม “สิงห์บลูส์” กำลังจะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งมีรายงานว่าทางสโมสรล้มเหลวในการต่อสัญญาใหม่กับแข้งทีมชาติเดนมาร์ก และพร้อมทำใจกับการเสียนักเตะในช่วงซัมเมอร์ โดยก่อนหน้านี้ทาง “เจ้าบุญทุ่ม” ก็มีข่าวกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า อีกหนึ่งแข้งทีมเดียวกันที่จะหมดสัญญาเช่นกัน แต่ช่วงหลังกระแสของ คริสเตนเซ่น มาแรงกว่า ด้าน เกสซีเย่ ก็จะหมดสัญญากับ “ปีศาจแดง-ดำ” เช่นกัน โดยมีการเปิดเผยว่าเจ้าตัวต้องการที่จะย้ายออกจากทีมหลังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาใหม่กันได้ ล่าสุดมีรายงานว่า บาร์เซโลน่า จ่อที่จะได้ทั้งคู่มาร่วมทีม แม้ว่าข้อตกลงจะยังไม่เสร็จสิ้นในตอนนี้ แต่รายงานเผยว่าการเจรจาอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ปัจจุบันทีมจะยังมีปัญหาในเรื่องการเงินและต้องรัดเข็มขัดในเรื่องของรายจ่าย ซึ่งการดึงนักเตะมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวจะช่วยให้ทีมประหยัดได้มากทีเดียว