แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซีได้ออกมาเน้นย้ำถึง 3 จุดสำคัญไปยังลูกทีมก่อนเกมที่จะดวลกับ เซบีย่า อังคารนี้ สิงโตน้ำเงินคราม กำลังจะเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เซบีย่า ทีมแกร่งจากสเปน ในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก ซึ่งถือเป็นงานหนักเพราะคู่แข่งเพิ่งคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวก่อนเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กุนซือใหญ่ของเชลซีเชื่อว่าการดวลกับ เซบีย่า จะเป็นการแข่งขันในอีกระดับ และเน้นย้ำลูกทีมว่าต้องมี ความตั้งอกตั้งใจ, สมาธิ และ วินัย อย่างมาก “ความตั้งใจ, สมาธิ และระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการดวลกับคู่แข่งอย่าง เซบีย่า” แลมพาร์ด กล่าว “ผมพูดต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เราต้องทำงานและสิ่งที่ต้องใช้เวลา เรากำลังลงเล่นด้วยนักเตะรายใหม่ และมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่ผมพูดถึงการจัดการในเกม มันต้องใช้เวลาในการทำงาน มันเป็นบทเรียนที่ต้องเรียนรู้”
Category: ข่าวทีมเชลซี
ขอสู้ต่อ! โทโมริเผยเหตุอยู่เชลซีต่อหลังมีข่าวย้ายตัว
ฟิกาโย่ โทโมริ เซนเตอร์แบ็กสำรอง เชลซี กล่าวกับพ็อดแคสต์ประจำสโมสรว่าเหตุผลที่ปฏิเสธโอกาสย้ายทีมแบบยืมตัวตลาดรอบที่ผ่านมาเนื่องจากต้องการเรียนรู้วิธีการเล่นปราการหลังตัวกลางแบบได้คุณภาพจาก ติอาโก้ ซิลวา จอมเก๋ามาดผู้นำ ติอาโก้ ถูก เชลซี เซ็นแบบฟรีเอเยนต์เสริมหลังบ้าน โดยนอกจากเหตุผลบนสนามแข่งแล้ว ภาวะความเป็นผู้นำของดาวเตะวัย 36 ปีก็เป็นสิ่งที่ห้องแต่งตัว ‘สิงห์บลูส์’ ขาดหาย การมาถึงของดาวเตะบราซิเลี่ยนส่งผลต่อโอกาสลงสนามของเซนเตอร์แบ็กคนอื่นรวมถึง โทโมริ ด้วย ช่วงที่ผ่านมาจึงมีกระแสว่า เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม และ แรนส์ ต้องการยืมใช้งาน อย่างไรก็ตามกองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษดีดลูกคิดรางแก้วแล้วมองว่าค้าแข้งที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปเกิดประโยชน์กว่าเพราะยังได้อยู่ทีมใหญ่, ขัดเกลาตัวเองกับมาตรฐานที่สูง และสำคัญสุดคือเพื่อดูดวิชาจาก ติอาโก้ ในทุกมิติ “ผมมีแผนในหัวตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาล 2020 แต่เพราะโลกฟุตบอลหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ก่อนตัดสินใจใดๆต้องทบทวนอย่างดี เลือกทางเลือกดีสุดให้ตัวเอง” ดาวเตะวัย 22 ปี เปิดใจ “ตอนปรี-ซีซั่นก็หารือกับเอเยนต์และสโมสรหลายประเด็น เพื่อหาความชัดเจนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เพราะส่วนตัวผมไม่อยากให้การย้ายทีมเกิดขึ้นแบบปุปปับ แม้ว่าคุณต้องเผชิญสถานการณ์เร่งตัดสินใจ” “ท้ายสุดผมเลือกที่จะอยู่ต่อ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น พยายามเข้าไปติดทีมลงสนาม เก็บประสบการณ์ และพยายามก้าวไปสู่ระดับที่ทำได้ในฤดูกาลก่อน” “สำหรับ ติอาโก้ ที่เข้ามาแม้แกยังสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้…
ไม่มีทาง! ซิลวาลั่นไม่มีทางที่แชมป์ปีนี้จะสะสมครบ100คะแนน
แบร์นาร์โด ซิลวา กองกลาง แมนฯ ซิตี้ กล้าฟันแบบไม่กลัวธงหักว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ไม่มีทางเห็นทีมแชมป์สะสม 100 คะแนนอีกแล้ว เพราะปัญหาเรื่องโปรแกรมชุก, ขาดการปรี-ซีซั่น และร้างแฟนเข้าสนาม จนผู้ชนะบั้นปลายจะเข้าวินปลายจมูก ‘เรือใบสีฟ้า’ สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทำคะแนนถึง 3 หลักเมื่อฤดูกาล 2017-18 ส่วนในสองฤดูกาลต่อมาที่ ซิตี้ ป้องกันแชมป์สำเร็จ ( 98 แต้ม) หรือซีซั่นล่าสุดของ ลิเวอร์พูล (99 แต้ม) ก็ปริ่มๆจะร้อย อย่างไรก็ตามเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ปฏิทินการแข่งขันรวน ลามมาจนซีซั่น 2020-21 ขาดการเตรียมความพร้อมที่ดี, คิวเตะชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปกลางปีหน้าบีบให้ฟุตบอลลีกต้องจบเร็วขึ้น และบรรยากาศสนามบอลร้างไม่มีกองเชียร์ปลุกเร้า คือสามปัจจัยสำคัญทำให้ดาวเตะโปรตุกีสมองว่าตำแหน่งเบอร์หนึ่งลีกคงสูสีแบบที่สุด เผลอๆ 6 อันดับแรก แต้มห่างไม่เกิร 5 คะแนน “ช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังๆ การจะเป็นแชมป์ลีกจำเป็นต้องทำแต้มเกือบๆ 100 แต่กับฤดูกาลปัจจุบันมองว่าสถานการณ์มันต่างออกไป” ซิลวา…
ไม่มั่นใจ! เลอเบิฟแสดงความไม่มั่นใจในตัวฮาแวร์ตซ์
ฟร้องค์ เลอเบิฟ ตำนานกองหลัง เชลซี ออกมาแสดงความไม่มั่นใจในตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางที่อดีตต้นสังกัดทุ่มเงินซื้อมาในราคากว่า 71 ล้านปอนด์ รวมถึงยังไม่เชื่อมือว่าทีมเก่าจะจบท็อปโฟร์ด้วยฟอร์มปัจจุบันด้วย แม้จะทุ่มเงินเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ร่วม 200 ล้านปอนด์ สิงห์บลูส์ ออกสตาร์ทซีซั่น 2020-21 ด้วยฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมดังกล่าว แม้ว่าเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมันอย่าง ฮาแวร์ตซ์ จะพังประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ แต่ เลอเบิฟ ก็ยังคงมีข้อสงสัยในความสามารถของเขา “ผมไม่มั่นใจในตัว ฮาแวร์ตซ์ ผมไม่ได้เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีสักเท่าไหร่” เลอเบิฟ กล่าว “แต่ผมพอใจกับ แวร์เนอร์ มาก เขาคือความพอใจอย่างแท้จริง” “ตอนนี้ผมไม่มั่นใจกับทั้งหมดที่เกี่ยวกับ เชลซี เลย มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่รู้จักกัน พวกเขาไม่ได้ฟิตเพียงพอ บอกเลยผมเป็นกังวลมาก” “ผมอยากจะให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากข้อสงสัยของผม เพราะผมไม่รู้ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน แต่แน่นอน ถ้าพวกเขายังโชว์ฟอร์มกันได้แค่นี้ต่อไป พวกเขาจะไม่แม้กระทั่งจบในท็อปโฟร์ด้วยซ้ำ”
พร้อมเสมอ! แลมพาร์ดยันพร้อมแบกความกดดันพาเชลซีกลับมายิ่งใหญ่
แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตนพร้อมแบกรับแรงกดดันอันมหาศาลในทุกรูปแบบ เพื่อพาทัพสิงโตน้ำเงินครามประสบความสำเร็จให้ได้ในอนาคต “อีกเรื่องที่คอลูกหนังพูดถึง เชลซี มากที่สุดในฤดูกาลนี้ก็คือ โอ้ ! แฟรงค์ แลมพาร์ด จะต้องเจอแรงกดดันถาโถมอย่างหนักแน่ เพราะใช้เงินซื้อนักเตะใหม่ไปเยอะมาก” ตำนานสิงห์บลู กล่าวผ่านงานแถลงข่าว “แน่นอนว่าผมเองรู้ซึ้งถึงเรื่องนี้ดีที่สุด และมันก็เป็นธรรมชาติของโลกแห่งฟุตบอลอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ ลุยงานต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยความหนักแน่น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่จะพยายามก้าวผ่านให้ได้โดยเร็วที่สุด” “คือไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน คนภายนอกย่อมโยนความคาดหวังใส่อยู่แล้ว แต่ในเมื่อได้ทำงานให้สโมสรใหญ่อย่าง เชลซี คุณอยากต่อสู้จนประสบความสำเร็จหรือจมอยู่กับความกดดันจนล้มเหลวล่ะ ? คำตอบชัดเจนนะ” “ย้ำอีกครั้งหนึ่ง ผมพร้อมแบกรับทุกความคาดหวัง พร้อมแบกรับทุก ๆ แรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่อย่างเต็มใจ และพร้อมทำงานหนักเพื่อเอาชนะมันให้ได้ในอนาคต”
เท่าเทียมกัน! แลมพาร์ดยันปฏิบัติต่อผู้เล่นทุกคนเท่าเทียมกัน
แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าเขาปฏิบัติต่อผู้เล่นทุกคนด้วยความเท่าเทียม และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกได้ลงสนามเป็นตัวจริงเท่า ๆ กัน รวมทั้ง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่หลุดเป็นตัวสำรองด้วย ตามรายงานจาก goal.com แม้ว่าทีม สิงห์บลู จะจัดการทุ่มเงินกว่า 200 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ดึงผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีมหลายราย แต่นายใหญ่ชาวอังกฤษก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่านักเตะทุกคนมีโอกาสได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกเช่นเดียวกัน “ผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นในแบบของพวกเขาเพื่อให้ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงได้ ซึ่งโอกาสมันอยู่ในมือของพวกเขา นั่นคือการทำงานของผม สิ่งที่ผมทำนั้นเพื่อปผลประโยชน์ของทีมเสมอและเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร เพราะเราต้องการเก็บชัยชนะให้ได้ในทุก ๆ สัปดาห์” “ผู้เล่นทุกคนต่างรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น ความสวยงามของตลาดซื้อขายที่เพิ่งปิดไปก็คือ เราสามารถทำงานได้และรู้ว่าทีมเราเป็นอย่างไร พวกเขารู้และและสามารถมีส่วนร่วมได้และเราก็ต้องการและพึ่งพาพวกเขาในหลาย ๆ เกมที่ลงสนาม โทนี ก็เหมือนกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เช่นกัน”
เอาหน่อย! ฮาแวร์ตซ์ออกมากระตุ้นทีมโดยเฉพาะแนวรับ
ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลาง เชลซี ออกมากระตุ้นทีมเมตโดยเฉพาะแนวรับให้รีบแก้ไขความผิดพลาดหนแล้วหนเล่าสักที เพราะหากยังรั่วแบบนี้ ยิงได้แมตช์ละ 3 เม็ดก็ไม่พอให้คว้าชัย ‘สิงห์บลูส์’ เข้าอีหรอกเดิมเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 วานนี้ ทั้งที่ขึ้นนำคู่แข่งตลอด ส่วนหนึ่งเพราะความผิดพลาดส่วนบุคคลเวลาเล่นป้องกันไล่จากนายด่าน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า, เซนเตอร์แบ็ก เคิร์ท ซูม่า, แบ็กซ้าย เบน ชิลเวลล์ หรือแม้แต่ ฮาแวร์ตซ์ เองก็มีส่วนเพราะเสียบอลกลางสนาม เหตุนี้แม้มิดฟิลด์ดอยช์ทำได้ 1 จาก 3 สกอร์ แต่ก็ไม่พอใจเพราะอยากเห็นทีมเฮแบบคลีนชีตมากกว่า “ผิดหวังกับผลการแข่งขัน เพราะเล่นดี 42 นาทีในครึ่งแรกแต่จากนั้นผมทำผิดพลาด – ทีมเสียประตู ส่งผลต่อรูปเกมและโมเมนตัม” ฮาแวร์ตซ์ กล่าวกับเว็บไซต์สโมสร “อุตส่าห์ได้ลูกขึ้นนำ 3-2 ก็คิดว่าต้องเก็บผลการแข่งขันเพื่อคว้าชัยเกมเหย้าแต่ไม่สำเร็จ จากนี้ต้องสามัคคีกัน พัฒนาขึ้นในแมตช์ต่อไป” “เกมป้องกันคือเรื่องที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้ง 11 คน, ทำงานให้หนักจะได้ไม่เสียประตูง่ายๆแบบเดิมอีก อย่าโยนความผิดแก่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ทบทวนตัวเองด้วยและพยายามแก้ไขปัญหา” “อาจเพราะเรามีเวลาซ้อมมื้อเดียวจาก 2 วัน…
ไม่ผิด! แลมพาร์ดปัดโทษเกมรับหลังทำได้เพียงเสมอกับเซาท์แฮมป์ตัน
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ปัดที่จะโทษเกมรับที่ทำให้ทีมพลาดคว้าชัยในที่โดน เซาธ์แฮมป์ตัน ตีเสมอ 3-3 ในช่วงทดเจ็บ แต่จำเป็นต้องรับผิดชอบกันทั้งทีม เกมที่สแตมฟอร์ด บริจด์ สิงห์บลูส์ เหมือนเจองานง่าย เมื่อนำ 2 ประตูจาก ทิโม แวร์เนอร์ ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แต่ก็มาโดน แดนนี่ อิงก์ส ยิงไล่มาก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที จากนั้น ครึ่งหลัง เช อดัมส์ ก็อาศัยความผิดพลาดของแนวรับเจ้าบ้านยิงตีเสมอ และแม้ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะบวกสกอร์ให้เจ้าถิ่นนำอีกครั้ง ทว่า ยานนิก เวสเตอร์การ์ด ก็มาโหม่งแบ่งแต้มให้ นักบุญ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ “ในครึ่งแรก ฟุตบอลของเรายอดเยี่ยมมาก เมื่อสกอร์นำ 2-0 คุณต้องการที่จะปิดเกม แต่เราอนุญาตให้พวกเขาทำประตูได้ก่อนพักครึ่ง และพอเป็น 2-1 มันจึงทำให้เกมแตกต่างออกไป” แลมพาร์ด กล่าว “ครึ่งหลัง เราปล่อยให้พวกเขากดดันใส่เรา และก็หาจุดเปลี่ยนของเกม…
ฟอร์มแจ่ม! ราล์ฟยืนยันเซาท์แฮมป์ตันเหมาะสมแล้วที่ได้1แต้มจากเชลซี
ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล กุนซือของ เซาธ์แฮมป์ตัน ออกมายืนยันว่าทีมตนสมควรแล้วที่จะได้รับหนึ่งคะแนนจากเกมเสมอ เชลซี 3-3 เนื่องจากสู้กับทีมใหญ่ได้ดีมาก นักบุญ เป็นฝ่ายตามหลัง สิงห์บลูส์ ก่อน 2 สกอร์ แต่ก็ไล่ตีเสมอได้ในครึ่งหลัง และแม้จะโดนเจ้าบ้านยิงนำได้จาก ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ ยานนิก เวสเตอร์การ์ด ก็มาโหม่งตีเสมอในช่วงทดเจ็บ “เราได้เห็นเกมที่น่าสนใจมาก เป็นเกมที่งดงาม มีโอกาสทำประตูมากมาย” นายใหญ่ชาวออสเตรียกล่าว “เราไม่ดีเท่าไหร่ในครึ่งแรก เราไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับเกมนี้มากเท่าไหร่นัก แต่ในครึ่งหลังเราดีขึ้นมาก” “เราครองบอลได้มาก และแสดงให้เห็นถึงการจัดการเกมได้ดี” “ประตูที่เราเสียมันดูง่ายเกินไป เรารู้ถึงคุณภาพ และสปีดของ แวร์เนอร์ และ ฮาแวร์ตซ์ อยู่แล้ว” “แต่เราไม่เคยหยุดที่จะเชื่อ เราทำประตูตีเสมอได้ และผมคิดว่ามันเป็นแต้มที่เหมาะสม” “เราพยายามที่จะพัฒนาในทุกส่วนของเกม เรามีดีที่การครองบอล การวางแผนในเกม และมันยอดเยี่ยมมากที่ได้รับแต้มแบบนี้ในการพบทีมที่แข็งแกร่งมากๆ” กับผลงานของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เพิ่งถูกดึงมาจาก เอฟเวอร์ตัน และลงสนามนัดแรกให้ทีมในซีซั่นนี้ ฮาเซนฮุทเทิ่ล กล่าวว่า “มันแตกต่างกับวิธีที่เราเล่น แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาช่วยเราได้…
เกือบสุด! แวเนอร์เผยเหหลังเบิกสกอร์ได้แต่ทีมดันไม่ชนะ
ทิโม แวร์เนอร์ กองหน้า เชลซี ออกมายอมรับว่าดีใจแค่ครึ่งเดียวสำหรับการที่สามารถเบิกสกอร์แรกในพรีเมียร์ลีกได้ แต่ต้นสังกัดดันไม่ชนะ หัวหอกทีมชาติเยอรมันทำได้ 2 ประตู และอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมที่ สิงห์บลูส์ เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีสกอร์นำจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นักบุญ ก็มาได้ลูกโหม่งของ ยานนิก เวสเตอร์การ์ด ทำให้เกมจบลงที่ผล 3-3 “ในครึ่งแรก เราเล่นกันได้ดีมาก เมื่อคุณต้องมาเสียประตูก่อนพักครึ่งสองหรือสามนาที มันไม่ง่ายเลย คุณจะมีความคิดในหัวของคุน เซาธ์แฮมป์ตัน สร้างความกดดันให้กับเราอย่างมาก และก็ไล่เพรสซิ่งสูงใส่เราด้วย เราเปิดโอกาสให้พวกเขามากเกินไป เราต้องชนะในเกม” แวร์เนอร์ กล่าว “ผมมีความสุขกับประตูที่ทำได้ แต่ผมก็ต้องการที่จะเป็นฝ่ายชนะ มันทำให้ผมแฮปปี้ 50% และไม่อีก 50%” “ผมไม่รู้ว่าเรามีปัญหารึเปล่า แต่ 3 เกมหลังสุดเราเสียไป 6 ประตู และมันก็ไม่ควรหากต้องการลุ้นแชมป์ ในเยอรมัน…