Category: ข่าวทีมเชลซี

แฟรงค์ แลมพาร์ด เผยก่อนเกมพบวัตฟอร์ดคืนวันพรุ่งนี้ว่าเขาไม่ได้คิดเรื่องการซื้อขายนักเตะ หลังมีข่าวลือเชื่อมโยง เอแมร์ซอน แบ็คซ้ายของ เชลซี ว่าจะย้ายไปเล่นที่อิตาลี แข้งวัย 25 ปีย้ายจาก โรม่า มาค้าแข้งกับ “สิงห์บลูส์” เมื่อปี 2018 แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เป็นตัวหลักต่อเนื่องเพราะต้องสลับกันเล่นกับ มาร์กอส อลอนโซ่ “ผมไม่รู้ข่าวนี้เลย สิ่งที่ผมกำลังทำคือมีสมาธิกับทีมและขุมกำลังในทุก ๆ วัน ผมไม่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับตลาดซื้อขาย ไม่ว่าใครที่เราอาจนำเข้ามาหรือใครที่อาจย้ายออกจากสโมสร”แลมพาร์ดกล่าว “นั่นเป็นคำถามที่เราจะมีคำตอบให้เมื่อฤดูกาลจบลงตอนที่ตลาดนักเตะเปิดทำการ แต่ผมไม่อยากเสียสมาธิไปกับข่าวลือหรือข่าวซุบซิบและผมก็ไม่เกี่ยวด้วย เราแค่จะทำหน้าที่ของเรา”

อันเดรียส คริสเตนเซน กองหลังของ เชลซี ยืนยันเขาไม่มีความต้องการย้ายออกจากทีม และอยากอยู่ค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปอีก ปราการหลัวัย 24ปี กลับมาได้รับโอกาสลงเล่นอีกครั้งในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด หลังก่อนหน้านี้ทำท่าว่าจะไม่มีอนาคตในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี โดยปัจจุบันเขาเหลือสัญญากับสโมสรอีก 2 ปี “ผมไม่เคยมองไปที่อื่น” คริสเตนเซน กล่าวกับ Sky Sports สื่อดังเมืองผู้ดี “ผมไม่เคยสงสัยในสถานการณ์ของตัวเอง ผมมีสมาธิอยู่กับเชลซีตลอดเวลา” “ผมยังมีสัญญากับทีม ผมต้องการอยู่จนครบสัญญา และฝันที่จะได้ลงเล่นที่นี่นานกว่านั้น” “แน่นอนว่าสถานการณ์มันต่างจากฤดูกาลก่อน แต่ผมยังคงรักที่จะอยู่ที่นี่ นี่ล่ะคำตอบของผม”

เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2019/2020 เผยปีหน้าการป้องกันแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมยก เชลซี, แมนเฃสเตอร์ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นคู่แข่งที่พร้อมจะแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ลีกและเป็นการทำสถิติคว้าแชมป์ลีกก่อนจบฤดูกาลถึง 7 นัด เจอร์เก้นคล็อปยอมรับว่าเป็นไปได้ยากและยังไม่คาดหวังคว้าแชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อเนื่องจาก คู่แข่งร่วมลีกต่างยกระดับขึ้นมาและกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ “ใช่ แมนซิตี้ จะแกร่งขึ้นในฤดูกาลหน้า แมนยู ก็จะแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับ เชลซี ก็จะแกร่งขึ้นในฤดูกาลหน้า” คล็อปป์ ตอบข้อถามเรื่องการป้องกันตำแหน่งแชมป์ฤดูกาลหน้า “พวกเขาจะแกร่งขึ้นมาก ทั้ง 3 ทีม โดยเฉพาะกับแมนซิตี้ ยูไนเต็ดเองมีทีมที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับ เชลซี ที่ทำทีมได้ดีขึ้นมาก ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ และ อาร์เซนอล ไม่อยู่นิ่งๆแน่ พวกเขาจะก้าวขึ้นมา และ ยังมีเลสเตอร์ ซิตี้ สิ่งสำคัญคือลีกต้องเตะกัน 38 นัด คนที่ชนะมากที่สุดก็คือคนที่คว้าแชมป์ลีก…

หลังเชลซีบุกไปเยือนแพ้เวสต์แฮม แฟร็งค์ แลมพาร์ดได้ออกมายืนยันเหตุผลที่แพ้และกำลังเตรียมแผนการในอีก6นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ “พวกเราสร้างความผิดพลาดในจังหวะที่เสียประตู ไม่ใช่เฉพาะกองหลังหรอก” แลมพาร์ดกล่าว “เรายังเหลือการแข่งขันรออยู่อีก 6 นัด ผลการแข่งขันนัดนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเพราะหากคุณลงเล่นในพรีเมียร์ ลีกแล้วสร้างความผิดพลาด หากคุณครองบอลแต่คุณทำได้ไม่ดีพอ เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้” “มันเป็นบางอย่างที่พวกเรารู้อยู่แล้วและเราก็ต้องยอมรับว่ามันจบลงไปแล้ว ต้องก้าวเดินกันต่อไปยังการแข่งขันอีก 6 นัดที่เหลือ” “เรามีโอกาสที่จะปิดช่องว่างหรือทำคะแนนแซงหน้าทีมอื่น” “เรายังต้องทำงานหนักกันอีกเยอะเพื่อไปให้ถึงจุดที่เราต้องการ และมันคือเหตุผลที่พวกเราหลายทีมไล่ตามหลังลิเวอร์พูลกับแมนฯ ซิตี้ เพราะว่าความสม่ำเสมอที่พวกเขาพัฒนากันมาตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำแต่มันก็น่าผิดหวัง” “หากเราอยู่ในตำแหน่งนั้น มันคือวิธีการว่าคุณจะสู้กลับมาอย่างไร จะเดินต่อไปอย่างไร เรามีเกมกับวัตฟอร์ดรออยู่ในวันเสาร์นี้ เราต้องมุ่งมั่นกันต่อ เราต้องตระหนักถึงตำแหน่งของตัวเองในแง่ของการต่อสู้เพื่อพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก”

วิลเลี่ยนได้ออกมาระบายว่าตัวเองผิดหวังหลังเกมส์ที่ เชลซีพบเวสต์แฮม “เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก ๆ” วิลเลี่ยนเผย “แผนของเราคือคว้าชัยในแมตช์นี้ และเราก็มาพลาดโอกาสขึ้นที่สาม อย่างน้อยเรายังมีเกมลุ้นชนะที่บ้านในวันเสาร์นี้ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาบ่นเสียดายมากนัก เราต้องชนะในวันเสาร์” “เราต้องลงเล่นทุกเกมให้เหมือนเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ และต่อสู้เพื่อโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก” “พวกเราสมควรจบอันดับท็อปโฟร์ บางครั้งเราก็มีผลงานทั้งขึ้นและลง แต่ผมคิดว่าเราสมควรจะอยู่ในจุดนั้น และเราต้องรักษาตำแหน่งนี้ให้ได้”

แกรี เนวิลล์ กูรูฟุตบอลอังกฤษชื่อดัง ออกมาจวก มาร์กอส อลอนโซ แบ็กซ้ายชาวสเปนของ เชลซี ว่าเสียตำแหน่งจนมีส่วนทำให้ทีมเสียประตูที่ 3 ในเกมที่บุกพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ในศึก ลอนดอน ดาร์บีแมตช์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ผ่านทาง สกาย สปอร์ตส์ แกรี เนวิลล์ ออกมากล่าวหลังจบเกมนี้พร้อมเจาะจงไปที่ มาร์กอส อลอนโซ เขามองว่ามีส่วนผิดพลาดกับจังหวะเสียประตูที่ 3 เนื่องจากขึ้นไปเติมเกมรุกแล้วลงมาไม่ทัน ” อลอนโซกำลังทำอะไรอยู่ในจังหวะนั้น? “นั่นมันคือความเร็วในการวิ่งกลับมาประจำตำแหน่งของตัวเองเหรอ จังหวะดังกล่าวมันเสียหายถึงขั้นเสียประตู รวมถึงการป้องกันที่ย่ำแย่ของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ด้วย แต่สำหรับ มาร์กอส อลอนโซ เขาผิดพลาดกว่ามาก” “ตอนจังหวะที่จะโดนสวนกลับเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับ อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้กระตือรือร้นที่จะวิ่งลงมายังตำแหน่งของตัวเองมากเท่าที่ควร เขาวิ่งอย่างเนิบๆ ช้าๆ จนถูกคู่แข่งโจมตีไปยังที่ว่างนั้น” “ผมเคยพูดถึงจังหวะแบบนี้ในก่อนหน้านั้นเกี่ยวกับการลงมายังตำแหน่งของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนี้เขาเจอกับความกดดันที่สโมสรจนมีข่าวอาจถูกขายออกจากทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด น่าจะเห็นแบบเดียวกับผมว่าเขาควรวิ่งกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อทีมของคุณเสียบอล แต่เขากลับทำเหมือนเด็กอายุ 6 ขวบในจังหวะนั้น”

แอชลีย์ โคล อดีตแบ็กซ้ายของเชลซีออกมาวิจารณ์ มาร์กอส อลอนโซ หลังก่อความผิดพลาดในเกมแพ้ให้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 เมื่อคืนที่ผ่านม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ 3 ประตูจาก โทมัส ซูเซ็ค นาทีที่ 45+2, มิคาอิล อันโตนิโอ นาทีที่ 51 และ อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก นาทีที่ 89 ขณะที่เชลซี ได้ 2 ประตูจาก วิลเลียน ในนาทีที่ 42 และนาทีที่ 72 ในเกมการแข่งขัน โคล ออกมาเผยว่า “พวกเขาจะต้องผิดหวัง สิ่งที่ผมเกลียดเกี่ยวกับผู้เล่นในตำแหน่งฟลูแบ็กที่ชอบเติมเกมบุก แต่ไม่ค่อยกลับมายังตำแหน่งของตัวเอง ผมเข้าใจนะว่าเขาหวังที่จะช่วยทีมให้ได้ประตู แต่คุณต้องไม่ลืมตำแหน่งของตัวเอง และการเสมอ พร้อมกลับการเก็บหนึ่งคะแนนกลับออกมา ก็ถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่ไม่น่าเกลียดนักกับเกมในนัดนี้ แต่ผมยังคาใจว่าเขาควรวิ่งกลับมาประจำตำแหน่งได้เร็วกว่านี้มั้ย? ในสถานการณ์ตอนนั้นเขาควรทำยังไงก็ได้ให้วิ่งกลับไปยังตำแหน่งเดิมให้เร็วที่สุด แต่เขาดูเหมือนจะไม่สนใจเลย เขาวิ่งอย่างช้าๆ ปล่อยให้คู่แข่งฉีกแนวรับไปเป็นชิ้นๆ”

ผ่านการแข่งขันไปแล้ว 3 นัด จากกลับมาเตะอีกครั้งหลังเกิดระบาดโควิด-19 แลมพาร์ด ได้พูดถึงผลงานของทีม “ผมมีความสุขในการเก็บชัยชนะและองค์การเล่นเกมที่เราลงเล่นโดยเฉพาะในสองนัดแรก เราต้องเฝ้าทำงานในลักษณะเดียวกัน เราต้องมุ่งมั่นในทุก ๆ ตำแหน่งของการเล่นโดยเฉพาะด้านเกมรับและวินัยในการทำงาน” “มันเป็นการผสมระหว่างการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ และช่วงปรีซีซั่นซึ่งมีระยะเวลาน้อยมาก นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ผมรู้จากการที่เคยเป็นนักเตะด้วยตัวเองว่าช่วง 1-2 เกมแรกของปรีซีซั่น คุณจะเริ่มรู้สึกจับทางได้ ความเฉียบคมอาจจะยังไม่มีและบางครั้งนักเตะก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนนั้นของการแข่งขัน” “เราต้องมุ่งมั่นกับเรื่องในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เรามีสัปดาห์ที่ดีแต่ยังต้องทำงานกันอีกเยอะ”