ชุมชนคนรักสิงโตคำราม

แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่า โรเมลู ลูกากู กองหน้าของ เชลซี ไม่ได้ทำอะไรผิดกับการพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา สตาร์ทีมชาติเบลเยียมกลายเป็นประเด็นร้อนหลังให้สัมภาษณ์กับทางสกาย สปอร์ต อิตาลีว่าไม่มีความสุขกับสถานการณ์ปัจจุบันสร้างความไม่พอใจให้กับฝั่ง “สิงห์บลูส์” อย่างมาก จนโดน โธมัส ทูเคิ่ล ถอดออกจากทีมที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทาง แกรี่ มองว่า ลูกากู ไม่ได้ทำอะไรผิดกับการให้สัมภาษณ์ แต่ก็พูดถึงความเป็นมืออาชีพของนักเตะตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง” “ผมคิดว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร ผมคิดว่าถ้าเรามองจากมุมที่เป็นกลางและมุมของสื่อ เราไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ โรเมลู ลูกากู ที่พูดตรงๆได้” แกรี่ กล่าวผ่านสกาย สปอร์ตส์ “ถึงกระนั้นผมคงต้องบอกว่าถ้าผมเป็นผู้จัดการทีม นักเตะ แฟนบอล หรือเจ้าของทีม เชลซี ผมคงจะโกรธแน่นอน” “ผมจำได้ตอนที่เขาย้ายมาอยู่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ผมไม่รู้สึกว่าเขามีความมุ่งมั่นที่นี่เมื่อ 2-3 ปีก่อนซึ่งนั่นคือสโมสรของคุณ, ผมไม่รู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ผมไม่ได้หลั่งน้ำตาเมื่อเขาจากไปเพราะผมไม่รู้สึกว่าเขาเป็นมืออาชีพตลอดเวลา” “เขาพูดความจริง มันเป็นความจริงที่น่าอึดอัดและมันยากมากๆที่จะไขความจริงนั้น…

เปาโล ดิ คานิโอ ออกโรงตำหนิพฤติกรรม โรเมลู ลูกากู ที่ให้สัมภาษณ์ล่าสุด โดยระบุว่าแข้งเบลเยียมยกตัวเองให้มีความสำคัญเหมือน ลีโอเนล เมสซี่ แต่ความจริงหาใช่เป็นแบบนั้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอล เชลซี ต้องเจอกับบทสัมภาษณ์ที่สร้างความไม่พอใจหลังจาก ลูกากู แสดงความเห็นในทำนองที่ไม่เคารพสโมสรปัจจุบัน ระบุว่าไม่ปิดโอกาสการกลับไป อินเตอร์ มิลาน ในอนาคต  นอกจากนั้น ‘รอม’ ยังกล่าวด้วยว่าตนเองไม่มีความสุขกับสถานการณ์ที่ผ่านมาเพราะไม่ได้โอกาสลงสนามเท่าที่ควร โดยทาง ทูเคิ่ล ให้เหตุผลมาตลอดว่าเนื่องจากนักเตะยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ต่างจาก ลูกากู ที่เผยคำพูดอีกแบบหนึ่งว่าตนเองมีสภาพร่างกายที่ดี “มีหลากหลายมุมมองในการพิจารณาบทสัมภาษณ์นี้ อุปนิสัย, ความไม่ลงรอย, จังหวะเวลา, ขาดความตระหนักรู้ถึงสิ่งที่พูดออกมาและอยู่ในระดับไหน” ดิ คานิโอ เผยกับ Sky Sport 24 “จากนั้น มีความไร้สมรรถภาพของนักกีฬาที่ยอมแพ้หลังจากผ่านไป 6 เดือนเพราะบางทีเขาอาจจะไปที่นั่นพร้อมกับความจองหองเนื่องจากความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ตระหนักถึงขนาดและระดับในส่วนต่างๆ  “เขาได้ สคูเด็ตโต้ ในอิตาลีร่วมกับบรรดาดาวดังที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา แต่เขาไม่ใช่ เมสซี่ หรือนักเตะแบบนั้น อินเตอร์ จะคว้าแชมป์อะไรก็ได้หากมี (ดูวาน) ซาปาต้า…

คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกเชลซีเผยว่าตนเองและคนอื่นๆ ไม่ได้ท้อแท้หรือกังวลแม้ว่าจะโดนนำสองลูก เพราะทุกคนรู้สึกว่าอยู่ในเกมตลอด สิงโตน้ำเงินคราม เปิดบ้านไล่ตีเสมอ ลิเวอร์พูล ไปแบบสนุก 2-2 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ เชลซี ยังคงรั้งที่ 2 ตามหลัง แมนฯ ซิตี้  10 คะแนน และนำ หงส์แดง อันดับ 3 อยู่แต้มเดียว หลังจบเกมแข้งทีมชาติสหรัฐฯ ที่ทำประตูตีเสมอช่วงท้ายครึ่งแรกเผยกับ บีบีซี ว่าแม้จะโดน หงส์แดง นำก่อนถึงสองประตู แต่ทุกๆ คนในทีมกลับไม่ร้อนรน ก่อนจะผนึกกำลังเอาคืนได้สำเร็จ  “มันรู้สึกเหมือนหนึ่งในเกมเหล่านั้น มันเป็นครึ่งแรกที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก คุณรู้สึกหลังจากพวกเราได้โมเมนตัมและกลับมาตีเสมอ 2-2 มันน่าหงุดหงิดที่เอาชนะไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดอาจจะเป็นผลการแข่งขันที่ยุติธรรมแล้ว “มันเป็นเรื่องที่แปลกในตอนตามหลัง 0-2 มันรู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ในเกมและกำลังเล่นได้ดี ยึดติดกับมันและทำได้สองประตู แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่น่าตื่นเต้น” เมื่อถามถึงการนำอัฒจันทร์แบบยืนมาติดตั้งใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทางด้าน พูลิซิช ระบุว่าเคยเห็นในเยอรมนีมาก่อนและมันช่วยเพิ่มบรรยากาศในสนาม “ผมเคยเห็นแบบนั้นในเยอรมนีมามากมาย ผมคิดว่ามันสามารถช่วยในเรื่องบรรยากาศ วันนี้ผมไม่รู้แต่บรรยากาศยอดเยี่ยมมาก”

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กองหลังกัปตันทีม เชลซี ออกมายืนยันว่าทีมของตนได้ใส่ทุกอย่างที่มีในสนามไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะคว้าสามคะแนนได้ในเกมที่ไล่ตามตีเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ดาวเตะทีมชาติสเปนกล่าวว่า “เราตามหลัง 2-0 เราต่อสู้อย่างหนักเพื่อกลับมา แน่นอนเราต้องการมากกว่านี้ เราไม่เคยสูญเสียความเชื่อมั่น เรารู้สึกว่าครึ่งหลังเราสามารถผลักดันเพื่อประตูที่สาม แต่เราก็ยิงไม่ได้” “มันชัดเจนว่าเป็นใบแดง (ใบเหลืองตอนต้นเกมจากจังหวะตีศอกของ ซาดิโอ มาเน่) ผมไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นช่วง 5 วินาทีแรกของเกม มันคือใบแดง ผมไม่เข้าใจ เรามีการตัดสินแบบนี้ในวันอื่น มันเป็นใบแดงชัดเจน เราได้รับการตัดสินที่ตรงกันข้าม และมันสามารถเปลี่ยนวิถีของเกมได้” “ผมดูรีเพลย์แล้ว แต่ผมไม่ต้องการสิ่งนี้ เพราะผมรู้ว่ามันเป็นใบแดง” “เราต้องต่อสู้เพื่อกลับมา เราใส่ทุกอย่างไปแล้วในสนาม แต่มันยังไม่พอ” “ทั้งสองทีมต่างมีช่วงเวลาของตัวเอง เมื่อพวกเขานำ 2-0 ผมคิดว่าพวกเขามีโอกาสชัดเจนที่จะได้ประตูที่สาม และบางทีนั่นอาจปิดเกมไปเลย แต่หลังจากนั้นเราก็เล่นกันได้ดี”

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี ออกมาแสดงความเห็นว่าจังหวะศอกบินของ ซาดิโอ มาเน่ เข้าที่หน้าของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ในช่วงต้นเกมที่เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ต้องเป็นใบแดงอย่างชัดเจน นายใหญ่ชาวเยอรมันกล่าวว่า “มันเป็นเกมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในสนามคือพลาด ด้วยพลังงาน ความผิดพลาดบางอย่าง เราออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม และตามหลัง 1-0 เพราะเราก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่สองหรือสามครั้ง จากนั้นเราก็เสียประตูที่สองซึ่งทำให้มันยากมาก” “ทีมไม่ยอมแพ้ และประตูของ มาเตโอ โควาซิช นำความเชื่อกลับมาสู่สนาม มันเกือบเป็นการคัมแบ็กที่สมบูรณ์แบบในครึ่งแรกกับประตูที่สามในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ” เมื่อถูกถามถึงโอกาสใบแดงที่เป็นไปได้ของ ซาดิโอ มาเน่ ทูเคิ่ล กล่าวว่า “ถ้าคุณจำเกมแรกกับผู้ตัดสินคนเดียวกันนี้ได้ และการแจกใบแดงให้เรานั้นเร็วแค่ไหน ผมไม่ใช่เพื่อนของใบแดงในช่วงต้นเกมหรอก ผมเกลียดที่จะพูดเพราะผมรัก มาเน่ และเขาก็เป็นคนดี และเป็นนักเตะระดับท็อป แต่มันคือใบแดง ศอกเข้าที่หน้าแบบนั้น ไม่สำคัญว่าคุณจะทำแบบนี้หลังจาก 20 วินาที หรือ 20 นาทีหรอก เกมกับ ไบรท์ตัน เราคิดถึง วีเออาร์ และทันใดนั้น…

เดอะ ซัน สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พร้อมทุ่มทุนถึง 50 ล้านปอนด์เพื่อดึง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางของ เชลซี ร่วมทีม แข้งวัย 21 ปีทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการไปเล่นกับ คริสตัล พาเลซ ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นนี้ โดยทำ 6 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 17 เกมในพรีเมียร์ลีก สื่อแดนผู้ดีเผยว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ของ เปแอสเช เป็นแฟนตัวยงของมิดฟิลด์ของ กัลลาเกอร์ โดยเชื่อว่าทาง “สิงห์บลูส์” ยินดีที่จะปล่อยออกจากทีม อย่างไรก็ตามทีมดังของฝรั่งเสสอาจจะต้องรอถึช่วงซัมเมอร์เนื่องจาก กัลลาเกอร์ ติดสัญญายืมตัวกับ พาเลซ ในขณะนี้ โดยช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่า เชลซี อยากจะดึงตัวกลับมา แต่เข้าใจว่านักเตะได้ลงเล่นเกินกว่าเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกันตามเงื่อนไขทำให้ไม่อาจดึงกลับมาได้ แต่ทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอื่นๆที่ตกลงกัน ซึ่งทาง เชลซี อาจจะมีทางขายนักเตะออกจากทีม แต่หากไม่สามารถทำได้ทาง เปแอสเช ก็พร้อมที่จะรอจนถึงช่วงซัมเมอร์ ก่อนหน้านี้ทาง กัลลาเกอร์ แสดงความปรารถนาที่จะกลับสู่ต้นสังกัดเพื่อแย่งตัวจริงในทีม…

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังเผยว่า เชลซี กำลังจับตาสถานการณ์ของ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กของ แอตเลติโก มาดริด อย่างใกล้ชิดและอาจจะร่วมวงดึงตัวมาร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล คู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังตกเป็นข่าวว่าต้องการตัวแข้งทีมชาติอังกฤษร่วมทีม โดยมีการยื่นข้อเสนอรอบแรกให้กับทีม “ตราหมี” พิจารณาแล้วจากรายงานของสกาย สปอร์ตส์ สื่อเจ้าดัง จากรายงานของ โรมาโน่ เผยว่าทาง “สิงห์บลูส์” กำลังพิจารณาเรื่องการคว้าตัว ทริปเปียร์ ร่วมทีมเช่นกัน หลังจากที่มีปัญหาแข้งริมเส้นเจ็บทั้ง เบน ชิลเวลล์ และ รีซ เจมส์  ขณะเดียวกันทาง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ของ แอต.มาดริด ยืนยันว่าไม่ขวางหากนักเตะเลือกที่จะย้ายออกจากทีมไป “ตอนนี้ ทริปเปียร์ ต้องตัดสินใจว่าเขาต้องการย้ายทีมหรือไม่” ซิเมโอเน่ กล่าว “เราจะจัดการตามที่เขาตัดสินใจ” ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าอยากได้ตัวไปร่วมทีม แต่สุดท้ายไม่สามารถตกลงค่าตัวกันได้จึงทำให้การเจรจาล่มไป

เดอะ การ์เดียน รายงานว่า โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์เชลซีอาจจะตัดสินใจตัดชื่อ โรเมลู ลูกากู ออกจากทีมในเกมดวล ลิเวอร์พูล สิงโตน้ำเงินคราม กำลังจะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ หงส์แดง ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญวันอาทิตย์นี้ โดยเป็นการแย่งอันดับที่ 2 ของทั้งคู่ และยังเป็นการไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาสื่ออังกฤษอย่าง การ์เดียน เผยว่า ทูเคิ่ล กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการตัดชื่อ ลูกากู ออกจากทีมใช้งานวันอาทิตย์นี้ หลังจากมีดราม่าเรื่องบทสัมภาษณ์ของกองหน้าชาวเบลเยียม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอล เชลซี ต้องเจอกับบทสัมภาษณ์ที่สร้างความไม่พอใจหลังจาก ลูกากู แสดงความเห็นในทำนองที่ไม่เคารพสโมสรปัจจุบัน เนื่องจากระบุว่าไม่ปิดโอกาสการกลับไป อินเตอร์ มิลาน ในอนาคต นอกจากนั้น ‘รอม’ ยังกล่าวด้วยว่าตนเองไม่มีความสุขกับสถานการณ์ที่ผ่านมาเพราะไม่ได้โอกาสลงสนามเท่าที่ควร โดยทาง ทูเคิ่ล ให้เหตุผลมาตลอดว่าเนื่องจากนักเตะยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ต่างจาก ลูกากู ที่เผยคำพูดอีกแบบหนึ่งว่าตนเองมีสภาพร่างกายที่ดี ทำให้ตอนนี้อาจจะเกิด ‘ดราม่า’ ครั้งใหม่ขึ้นมาหากว่า…

โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ช เชลซี ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเรียกตัวฉุกเฉิน เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ แบ็กซ้ายที่ปล่อยให้ โอลิมปิก ลียง ใช้งาน กลับมาสวมเครื่องแบบสังกัดแม่ช่วงตลาดม.ค. 2022 เพราะทีมขาดตัวเลือกทางกราบ ความคืบหน้ากรณี ชิลเวลล์ ที่ปิดเทอมไปแล้วนั้น ส่งผลให้ ‘สิงห์บลูส์’ เหลือแบ็กซ้ายอาชีพเพียง มาร์กอส อลอนโซ่ ส่วนรายอื่นคือตัวขัดตาทัพ ดังนั้นบอสวัย 48 ปีจึงมองทางเลือกดึงแข้งอิตาเลี่ยนสู่สแตม ฟอร์ด บริดจ์ สมเหตุสมผลที่สุด  “พวกเรากำลังพิจารณาเรื่องนั้น” ทูเคิ่ล กล่าวในการแถลงความพร้อมก่อนพบ ลิเวอร์พูล (2 ม.ค.) “ปัจจุบันเรามีสถานการณ์ใหม่กับ เบน ชิลเวลล์ ดังนั้นแน่นอนเลยว่ากำลังมองความเป็นไปได้ดูว่าเราสามารถทำอะไรสักอย่าง และทำแบบไหน” “หนึ่งในความเป็นไปได้ คือนักเตะที่เราทั้งรู้จักและหลงรักในแง่ของบุคคลเขาคือ เอแมร์ซอน แต่เราต้องเช็กก่อน เราจะไม่พูดคุยรายละเอียด ทีมกำลังหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป เรื่องนี้จะใช้เวลาหลายวัน หรืออาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์” ดาวเตะวัย 27 ปีเล่นไป 15 เกมลีก เอิง ฐานะ ลียง ทำได้หนึ่งประตูและหนึ่งแอสซิสต์

เดลี่ เมล สื่อเจ้าดังของอังกฤษรายงานว่า รีซ เจมส์ แบ็กตัวเก่งของ เชลซี จะต้องพักรักษาตัวร่วมสองเดือนจากอาการบาดเจ็บในเกมที่เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แข้งทีมชาติอังกฤษได้รับบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายและโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งทางของครึ่งแรกในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งในตอนแรกมีการคาดกันว่าเจ้าตัวจะต้องพักรักษาตัว 1 เดือน ล่าสุดหลังการตรวจสอบอย่างละเอียดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ร้ายแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด แต่สื่อดังของแดนผู้ดีเผยว่า เจมส์ จะต้องพักนานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว รายงานอ้างถึงการตรวจสอบที่เผยให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งจะต้องรอถึงช่วงต้นเดือนมีนาคมเลย แข้งวัย 22 ปีเป็นคนสำคัญในทีม เชลซี ซีซั่นนี้โดยลงเล่น 23 เกมทุกรายการ ทำไป 5 ประตูกับ 6 แอสซิสต์