ชุมชนคนรักสิงโตคำราม

โธมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีม เชลซี ยืนยันเจอตำแหน่งที่ใช่สำหรับ ไค ฮาแวร์ตซ์ แนวรุกชาวเยอรมันวัย 21 ปี โดยดาวเตะวัย 21 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงหลัง โดยเฉพาะเกมที่เราชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0 ซึ่งได้มีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมได้ทั้งสองลูก ทั้งยังมีโอกาสได้ลงยืนเป็นตัวรุกค้ำหน้าเป้าไวด้วย โธมัส ทูเคิ่ล กล่าวว่า “เขานี่ทรงเบอร์ 9 เลย ผมไม่คิดว่าเขาเป็นฟอลส์ไนล์หลอกนะ เพราะเขาชอบยืนตำแหน่งสูง ผมรู้สึกว่าเขาเล่นตำแหน่งนั้นได้สบายมาก เขาสามารถถอยลงมาในพื้นที่ครึ่งหนึ่ง พลิกบอลแล้วก็พาบอลทะลุทะลวงไป” “เขาไม่ได้ต้องการถอยต่ำมายืนเป็นเบอร์ 10 ตลอดและสำหรับผม จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือเขาชอบยืนสูงแล้วก็โฉบเข้ากรอบในจังหวะสุดท้าย เขาชอบอยู่ในกรอบ 6 หลาแล้วมองหาบอล มองหาการสัมผัสจังหวะสุดท้าย” กุนซือเชลซี กล่าว

ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวรุกอเนกประสงค์ของ เชลซี ขอโอกาสเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล และแฟนบอลช่วยสนับสนุนเขาต่อไปเรื่อยๆกับตำแหน่งหอกตัวหลอก เพราะเริ่มจับทางได้แล้ว หวังลบภาพนักเตะที่หาตัวเองไม่เจอตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาตอบแทนค่าตัวกว่า 89 ล้านปอนด์ช่วงซัมเมอร์ ดาวเตะวัย 21 ปีลงตัวจริงสองเกมลีกหลังสุดที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (ยิงแแฉลบ, เรียกจุดโทษ) ต่อด้วยแมตช์เจ๊า ลีดส์ 0-0 ก็หวังว่าเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดสองซึ่งพบ แอต.มาดริด (17 มี.ค.) คงถูกส่งตัวจริง  “เราต้องมุ่งมั่นเข้าไว้ เพราะเกมนัดถัดไปในคืนวันพุธ แล้วมันก็เป็นแมตช์ที่สำคัญมากๆ” ฮาแวร์ตซ์ กล่าวกับเว็บไซต์ทางการ  “ส่วนโคโรน่าไวรัสสำหรับผมมันจบไปแล้ว รู้สึกดีขึ้นมาก เพิ่งมีอาการบาดเจ็บเล็กๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ถึงเวลาทำผลงานให้ดีขึ้น” “ต้องพัฒนาเกมของตัวเองแม้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักและหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในเร็ววัน รับปากจะพยายามเต็มที่”  ตั้งแต่มาเล่น เชลซี ฮาแวร์ตซ์ พังตาข่ายแค่ลูกเดียวรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่ 17 ต.ค. ส่วนบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ หรือ คาราบาว คัพ ก็กดใส่ทีมต่ำดิวิชั่น

เชลซี วางแผนเปิดฉากคุยสัญญาฉบับใหม่กับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ก่อนที่นักเตะเดินทางไปทำศึกยูโร 2020 หลังกลับมามีบทบาทสำคัญในทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล เดลี่ เมล สื่ออังกฤษ รายงานว่า เชลซี ต้องการจัดการเรื่องต่อสัญญาฉบับใหม่กับ รือดิเกอร์ ทันทีที่ฤดูกาลนี้จบสิ้นลง เพราะไม่ต้องการให้สัญญาปัจจุบันเดินทางเข้าสู่ช่วง 12 เดือนสุดท้าย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียนักเตะไปแบบไม่มีค่าตัว รือดิเกอร์ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีบทบาทสำคัญนับตั้งแต่ ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทัพแทนที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมื่อเดือนมกราคม หลังจากก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าอนาคตของปราการหลังทีมชาติเยอรมนีจะดับวูบ ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บที่ค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพความฟิต และยังไม่ใช่ตัวเลือกในใจของ แลมพาร์ด สำหรับ รือดิเกอร์ ที่มีสัญญาอยู่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงปี 2022 ลงเล่นตัวจริงไป 8 เกมในยุคของ ทูเคิ่ล ที่คุมทัพไปแล้วทั้งหมด 12 เกม และเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 เกม ทำให้ เชลซี ต้องเปลี่ยนแผนการเร่งเจรจาสัญญาใหม่ก่อนศึกยูโร ทั้งที่ก่อนหน้านี้วางแผนคุยหลังจบศึกใหญ่ในช่วงกลางปีนี้

เจมี่ คาร์ราเกอร์ นักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ เป็นคนล่าสุดที่แสดงความเห็นว่า ลิเวอร์พูล คงไม่สามารถปีนเอา 4 อันดับแรกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับเก้าแมตช์เดย์ที่เหลือเพราะความห่างคะแนน บวกคุณภาพทีมกลุ่มบนเต็มที่แค่จี้ให้เสียวๆเท่านั้น ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 วานนี้จนมีแต้มตามหลัง เชลซี อันดับสี่โควตาสุดท้ายชปล.เพียง 5 คะแนน ทว่าอดีตลูกหม้อ ‘หงส์แดง’ ก็ขอมองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนเนื่องจากคิวแข่งแชมป์เก่าโหด, ปัญหาผู้เล่นเจ็บ, เกมรุกทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ไม่ค่อยได้ จึงจากสร้างผลงานเก็บ 27 แต้มเต็มที่เหลือ  “ฤดูกาลนี้ผมรู้สึกเหมือนพวกเขาได้ต่อสู้ทั้งรสชาติการเอาท็อป 4 และอันดับหนีตกชั้น” คาร์ราเกอร์ พูดถึงผลงาน ลิเวอร์พูล ที่แกว่งไปมาโดยเฉพาะเกมเหย้าเล่นอย่างบอลท้ายตารางแพ้ 6 เกมติด “ณ เวลานี้ผมคงไม่เชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะจบสี่อันดับแรกได้ – คิดว่าท้ายสุดคงชวด” “ต่อให้ผลการแข่งขันสำคัญเกมชนะ วูล์ฟส์ แต่ก็ยังมีช่องว่างคะแนนที่ห่างพอสมควร สถานะ’หงส์แดง’ คือติดสี่อันดับแรกหรือแค่มีศักยภาพเป็นสี่อันดับแรก”  “หลายทีมในกลุ่มไล่ๆกันล้วนทำแต้มหล่นสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นมาอยู่ที่หก ก็ยังเหลือเส้นทางให้สู้ต่อ”  “ฐานะทีมตามสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำในอีก 2-3 สัปดาห์จากนี้คือชนะเป็นชุดสร้างความเสียวสันหลังให้กับ เลสเตอร์ หรือ เชลซี นั่นคือหลักการ แล้วมันยังเหลือเกมที่ต้องเจอกันเองอีกในกลุ่มนั้นเท่ากับว่าต้องมีทีมใดทีมหนึ่งแต้มหล่น”  “สิ่งที่ ‘หงส์แดง’ ต้องทำคือชนะให้ได้สัก 5-6 เกม ป้วนเปี้ยนแถวนั้นไว้รอทีมไหนพลาดก็กระโจนขึ้นไป”  ลิเวอร์พูล คิวแข่งในลีกยังยากทั้งเยือน อาร์เซน่อล, ลีดส์ หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต่างให้ความสนใจ อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช เซนเตอร์แบ็กทีมชาติบอสเนียของ มัลโม โดยส่งแมวมองตามดูฟอร์มกองหลังวัย 21 ต่อเนื่อง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังรายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ติดตามผลงานของ อาห์เหม็ดฮอดซิช อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อเสนอหรือการติดต่อทาบทามใดๆ ไปยัง มัลโม ต้นสังกัดของนักเตะ อาห์เหม็ดฮอดซิช เป็นเด็กปั้นของ มัลโม ก่อนย้ายไป น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพ ระหว่างปี 2016-2019 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงย้ายกลับ มัลโม และทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2020 อย่างไรก็ตาม ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี สถานการณ์ตกเป็นรอง อตาลันต้า ที่เปิดการเจรจาในเบื้องต้นไปแล้ว และมีโอกาสดีกว่าทีมอื่นๆ แต่การย้ายทีมก็ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์จากการยืนยันของกองหลังวัย 21 ปี ที่ยอมรับว่ามีหลายสโมสรต้องการตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สโมสร เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ คือสองค่ายยักษ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อยากได้ตัว เปาโล ดีบาล่า จาก ยูเวนตุส ตลาดซัมเมอร์ 2021 โดยพร้อมทุ่มเงิน 43-47 ล้านปอนด์ (ราว 50-55 ล้านยูโร) ดูดแข้งอาร์เจนไตน์เข้าชายคา รายงานจาก ‘ฟร้องซ์ ฟุตบอล’ ว่า ดีบาล่า ไม่อยู่ในแผนทำทีมของเฮดโค้ช อันเดรีย ปีร์โล่ เมื่อบวกสัญญาที่เหลือไม่ถึง 18 เดือนโดยผู้เล่นไร้ท่าทีเซ็นเพิ่ม ทำให้ต้องตัดสินใจเด็ดขาดตลาดรอบต่อไปก่อนราคาจะยิ่งตก  ดาวเตะวัย 27 ปีเผชิญปัญหาความฟิตมาตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลสืบเนื่องจากติดโควิด-19 ส่งผลให้โดนใช้งาน 16 นัด ทำไปแค่สามประตูกับสองแอสซิสต์  หากมาร่วมงาน เชลซี ก็สามารถทดแทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่กำลังจะหมดสัญญาหรือ แทมมี่ อับราฮัม หอกนอกสเป็ค โธมัส ทูเคิ่ล แล้วแข้งอาร์เจนไตน์ยังลงตัวกับระบบ 3-4-2-1 ที่เขาค้ำหอกตัวหลอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้าน สเปอร์ส เคยเป็นข่าวว่าเกือบได้ ดีบาล่า เมื่อซัมเมอร์ 2019 แต่โดนปฏิเสธนาทีท้ายๆ กระทั่งโอกาสประจวบเหมาะลุ้นวาสนาถึงกันสักที

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของ เชลซี มั่นใจในศักยภาพของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ว่ามีดีพอในการทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้าให้กับทีมได้ แข้งทีมชาติเยอรมันที่ปกติถูกจับเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือมิดฟิลด์ในช่วงที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด คุมทีม ซึ่งที่ผ่านมาผลงานยังไม่ประทับใจนักเมื่อเทียบกับค่าตัวระดับ 71 ล้านปอนด์ที่ทีมจ่ายไป อย่างไรก็ตามภายใต้การคุมทีมของนายใหญ่บ้านเดียวกันที่ส่งทำหน้าที่ในเกมที่เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมถึงเกมก่อนหน้านี้ที่เจอ เอฟเวอร์ตัน มั่นใจว่าตัวนักเตะมีศักยภาพในการยืนเป็นหอกเป้าของทีมได้ “มันเป็นบทบาทเดียวกับที่เขา (ฮาแวร์ตซ์) ได้รับในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน” ทูเคิ่ล กล่าว “ผมคิดว่า ไค รู้สึกสบายมากกับการขึ้นไปยืนสูง ผมรู้ว่าเขาสบายมากขึ้นในการหาช่องว่างระหว่างแนวรุก พลิกบอลและพาบอลไปด้วยสปีดที่มี” “แต่เขาสอดเข้าไปในเขตโทษอย่างเป็นธรรมชาติและในระยะ 6 หลา ในการจบสกอร์ของเรา, เขามีการเข้าทำที่ไม่ตื่นตระหนก แข็งแกร่งในการจบสกอร์ เขาสามารถเล่นในตำแหน่งเบอร์ 9 ได้อย่างสบายๆ เขาสามารถเล่นเป็นหน้าต่ำหรือปีกก็ได้” “มันคือตำแหน่งของเขาและเราก็ใช้เขาเล่นเป็นแข้งหมายเลข 9 ซึ่งผมเองก็พอใจ, โชคไม่ดีที่เขาทำประตูไม่ได้อย่างที่ทำในตอนซ้อมเพราะเรามีโอกาสมากพอ” “มันเป็นตำแหน่งที่เขารู้สึกสบายใจในการเล่นและผมก็เชื่อมั่นใจตัวเขาที่ให้ยืนตำแหน่งนั้น”

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ เชลซี ชี้ว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งพูดถึงเรื่องการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ “สิงห์บลูส์” ยังมีปัญหาในแนวรุกที่ทำประตูได้ไม่มากนัก โดยเฉพาะนักเตะในตำแหน่งกองหน้าที่เป็นจุดบอดของทีมที่หาคนที่จะมารับหน้าที่เป็นกำลังหลักไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทีมมีข่าวต้องการหอกตัวเป้าคนใหม่ โดยเฉพาะในรายของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ของดอร์ทมุนด์ อย่างไรก็ตามทาง ทูเคิ่ล ยืนยันว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ โดยชี้ว่าพอใจกับนักเตะที่มีอยู่และทำงานเพื่อหาทางออกในเรื่องของการทำประตูกัน “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพิจารณาถึงเรื่องในช่วงซัมเมอร์หรือวิธีแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆอะไรมากกว่าที่เรามีอยู่” ทูเคิ่ล พูดถึงเรื่องตลาดซื้อ-ขาย “เรามีนักเตะที่เราพอใจและเรากำลังมองหาวิธีแก้ไขเพิ่มเติม เราพยายามช่วยพวกเขา” “ในภาพรวม ผมแฮปปี้เพราะเราไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์ แต่มองถึงเรื่องของประตูและแอสซิสต์ แน่นอนว่านี่คือสถิติซึ่งกองหน้าทุกคนทำมันและทุกคนต้องมีแนวคิดกับการจัดการเรื่องนั้น มันเป็นแบบนี้กับฟุตบอลระดับสูง” “เรายังคงรอความก้าวหน้าสำหรับพวกเขาในการทำประตูให้ได้ต่อเนื่อง มันไม่เป็นอย่างนั้น เราไม่หยุดที่จะเดินหน้าและมองหาทางออกในการสร้างโอกาสทำประตู นั่นคือวิธีที่เป็นอยู่”

ไค ฮาแวร์ตซ์ ดาวรุ่งชาวเยอรมันถูกส่งยืนเป็นกองหน้าโดย โธมัส ทูเคิ่ล ในเกมที่พวกเราเอาชนะเอฟเวอร์ตัน เช่นเดียวกับเกมบุกเยือนลีดส์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขามีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูที่ทีมยิงใส่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน แต่โชคไม่เข้าข้างในการแข่งขันที่เอลแลนด์ โร้ด ทูเคิ่ล ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าแนวรุกจำเป็นต้องเชื่อมั่นในกระบวนการ และอย่ากังวลมากนักที่ทำประตูไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ฮาแวร์ตซ์ เรียกร้องให้เพื่อน ๆ ลืมข้ออ้างและโฟกัสไปที่การจัดการให้ทุกอย่างถูกต้อง “มันก็น่าผิดหวังนิดหนึ่งครับ เพราะว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่า แต่เรายิงประตูได้ไม่มากพอ” ฮาแวร์ตซ์กล่าว “พวกเราเฉียบคมกันไม่พอบริเวณหน้าประตู เรามีโอกาสที่ดี และผมก็มีโอกาส 2 ครั้ง แต่ว่าการยิงในลีกนี้มันไม่ง่ายเลย เราต้องเฝ้าสร้างโอกาสต่อไป และหวังว่าในเกมต่อจากนี้เราจะทำประตูได้มากขึ้น” “เราต้องมุ่งมั่นเข้าไว้ เพราะเกมนัดถัดไปในคืนวันพุธ แล้วมันก็เป็นแมตช์ที่สำคัญมาก ๆ”

ไวรัสทำให้เขาต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเกือบ 3 สัปดาห์ และผลกระทบที่ตามมาก็ใช้เวลานานในการฟื้นฟู หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บทำให้เขาหมดโอกาสมีส่วนร่วมในช่วงไม่กี่สัปดาห์แรกที่ ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทัพ แต่ ฮาแวร์ตซ์ เชื่อว่าเขากำลังเข้าสู่สภาพความฟิตที่สมบูรณ์เต็มที่อีกครั้ง ประจวบเหมาะกับช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล “โคโรน่าไวรัสมันจบไปแล้ว [สำหรับผม] และผมก็รู้สึกดีครับ” ฮาแวร์ตซ์พูดเสริม “ผมมีอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ ในช่วงไม่กี่วีคที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ถึงเวลาทำผลงานที่ดี” “ผมต้องพัฒนาเกมของผม มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยครับ แต่ก็ไม่มีข้ออ้างหรอกนะ ผมแค่ต้องเฝ้าทำงานหนัก และหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เร็ว ๆ นี้ ผมจะพยายามเต็มที่ครับ”