ชุมชนคนรักสิงโตคำราม

บาเยิร์น มิวนิค ไม่มีแผนคว้าตัว คริสเตียน พูลิซิช หรือจับตามองกองกลางตัวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกาของ เชลซี แต่อย่างใด จากการยืนยันของ บิลด์ สื่อดังเยอรมนี ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า บาเยิร์น มิวนิค ให้ความสนใจดึงตัว พูลิซิช อดีตกองกลางตัวรุกของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลับมาเล่นในบุนเดสลีกาอีกครั้งในฤดูกาลหน้า หลังจากอยู่ในช่วงฟอร์มตก และได้ลงสนามไม่มากนัก เป็นผลพวงมาจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คริสเตียน ฟอล์ค นักข่าวของ บิลด์ รายงานว่า บาเยิร์น มิวนิค ไม่มีการติดต่อหา พูลิซิช และจะไม่มีการยื่นข้อเสนอทาบทามมิดฟิลด์วัย 22 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้แต่อย่างใด เป็นการปฏิเสธข่าวลือที่ปรากฏออกมาทางสื่อหลายสำนักก่อนหน้านี้ สำหรับ พูลิซิช ลงเล่นไปแล้ว 22 เกมในฤดูกาลนี้ มีเพียง 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์รวมทุกรายการ แต่ก็ยังมีเวลาให้พิสูจน์ตัวเองอีกนาน เพราะมีสัญญาอยู่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงปี 2024

ตีโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมนีของ เชลซี ยอมรับการเผชิญช่วงเวลาที่ทำประตูไม่ได้นานๆ ถือเป็นช่วงที่จิตตกและหัวเสียสุดๆ แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย แวร์เนอร์ ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาอยู่กับ เชลซี ค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว หลังผลิตประตูเป็นกอบเป็นกำให้ทีมดังบุนเดสลีกา จนบอร์ดบริหารของ สิงโตน้ำเงิน ต้องทุ่มเงินซื้อมาให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ใช้งาน แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล ดูเหมือนอะไรๆ จะเริ่มดีขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย จากผลงาน 5 เกมหลังสุด ที่มีหนึ่งประตูกับสามแอสซิสต์ “รอยยิ้มไม่ได้อยู่บนใบหน้าผมตลอดเวลา แต่คุณต้องยิ้มอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อคุณไม่มีความสุขแล้ว คุณก็จะไม่สนุกกับเกมฟุตบอล และคุณมักจะโกรธหรือหัวเสียเสมอ เมื่อคุณไม่สามารถกลับไปเล่นในฟอร์มที่ดีเหมือนแต่ก่อนได้” “นั่นคือปัญหาของผม ผมต้องฝึกซ้อมอย่างไร แต่ผมต้องคิดบวกเสมอ ต้องไม่คลุ้มคลั่ง นั่นคือก้าวต่อไปที่ผมจะกลับไปเป็น ตีโม คนเดิม เบื้องหลังของรอยยิ้ม การผ่านไปหลายต่อหลายวันโดยยิงประตูไม่ได้ และบางครั้งทีมก็แพ้ แน่นอน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย แต่รอยยิ้มบนใบหน้าคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไป”…

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ เชลซี ยอมรับว่าด้วยแผนการเล่นที่เน้นการครองบอลของทีมไม่เข้ากับสไตล์ของ ทิโม แวร์เนอร์ กองหน้าของทีม ดาวยิงทีมชาติเยอรมันผลงานตกลงไปอย่างน่าใจหายยิงได้แค่ลูกเดียวจาก 8 เกมภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ ซึ่งทาง ทูเคิ่ล ยอมรับด้วยสไตล์การทำทีมที่เน้นการครองบอลทำให้คู่แข่งลงไปรับลึก ส่งผลถึงสไตล์การเล่นของ แวร์เนอร์ แต่ยืนยันรู้ถึงศักยภาพของลูกทีมและพร้อมหาทางออกได้ “บางทีมันอาจจะเป็นความผิดของเราเพราะเราครองบอลมากเกินไป และเรากดให้คู่แข่งถอยไปเล่นเกมรับลึกในแดนของพวกเขาเอง ดังนั้นพื้นที่ก็มีไม่มากนัก” ทูเคิ่ล กล่าว “จุดแข็งของ ทิโม คือโจมตีในพื้นที่ว่างหลังแนวรับสุดท้าย ดังนั้นมันอาจจะเป็นความผิดของเราที่เน้นครองเกมอย่างที่เราเล่นในตอนนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายตรงข้ามจะปิดช่องว่าง” “อย่างในเกมกับ แอตเลติโก, มีทีมไหนในโลกที่สามารถปิดช่องว่างได้อย่าง แอตเลติโก อีก? ผมไม่รู้เหมือนกัน นี่ไม่ใช่คู่แข่งที่คุณหวังจะให้ ทิโม โชว์ทักษะทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่สำหรับเขาคือการไม่เสียศรัทธาและทำงานเพื่อทีม” “เราไตร่ตรองมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้และทำงานอย่างหนักกับเขา นอกจากนี้ยังมีวิธีแก้ปัญหาในพื้นที่แคบๆด้วยการใช้สปีดต้นของเขา ใช้ความคล่องแคล่วของเขา” “แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาและผมสามารถเห็นสิ่งนั้นได้ว่าทำไมผมถึงอดทนกับเขาอย่างมากและมองในแง่ดีและเชื่อในศักยภาพที่เขามีรวมถึงทักษะการจบสกอร์และแคแร็กเตอร์ของเขาด้วย”

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนุนการตัดสินใจของ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี หลังมีเสียงวิจารณ์เรื่องการตัดสินใจเปลี่ยน คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมดังกล่าวแข้งทีมชาติอังกฤษถูกส่งลงสนามในครึ่งหลัง แต่ว่าอยู่ในสนามเพียงครึ่งชั่วโมงก็โดนเปลี่ยนตัวออก ซึ่งหลังจบเกมทางนายใหญ่ชาวเยอรมันเผยว่าไม่พอใจกับท่าทางและทัศนคติของนักเตะจึงตัดสินใจเปลี่ยนตัว ทาง โซลชา ที่จะพา “ปีศาจแดง” เจอกับ “สิงห์บลูส์” คืนวันอาทิตย์นี้สนับสนุนการตัดสินใจของคนเป็นกุนซือเพราะว่าผลการแข่งขันคือตัววัดผลงาน “โธมัส เป็นหนึ่งในโค้ชเหล่านั้นที่รักฟุตบอล รู้จักฟุตบอลของตัวเองและมีทีมที่พร้อมสำหรับทุกๆเกม” โซลชา กล่าว “ผู้จัดการทีมต้องใช้ชีวิตด้วยผลลัพธ์ และถ้าคุณรู้สึกว่ามีบางอย่างที่จะต้องเปลี่ยนแปลง คุณก็เปลี่ยนมัน” “คุณต้องตัดสินใจบางอย่างที่ยากลำบากเพราะในท้ายที่สุดแล้วมันขึ้นอยู่กับผลการแข่งขัน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีม มันไม่สำคัญว่าใครจะได้ลงเล่น 75 นาทีหรือ 30 นาทีหรอกนะ”

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ เชลซี เผยเคยพยายามดึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาร่วมทีมสมัยที่คุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แข้งทีมชาติโปรตุเกสเข้ามาปลุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กลับมาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งในเวลาเพียงแค่ 12 เดือนนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม โดยทำไปแล้วถึง 34 ประตูกับ 21 แอสซิสต์จากการลงเล่น 60 เกม ทูเคิ่ล ที่เตรียมพา “สิงห์บลูส์” เผชิญหน้ากับ “ปีศาจแดง” ในเกมพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้เผยว่าสมัยทำงานร่วมกับ อันเตโร่ เอ็นรีเก้ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของเปแอสเช เคยพยายามดึงตัว บรูโน่ มาร่วมทีมสมัยที่อยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาแล้ว “ในช่วงปีแรกของผมที่ปารีส ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงตลาดซื้อ-ขายครั้งแรกหรือสองหรือสาม ผมไม่แน่ใจ มันเป็นช่วงที่เรามาถึงในซัมเมอร์” ทูเคิ่ล กล่าว “ผมได้รายละเอียดเกี่ยวกับเขามากมายเพราะผู้อำนวยการสโมสรที่รู้จักกับเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นเราติดตามดูเขาและดูเกมของเขามากมายและติดตามเขารวมถึงพยายามที่จะติดต่อกับเขาเพื่อทำให้มันเกิดขึ้น” “เห็นได้ชัดว่าเขาตัดสินใจและผมไม่เคยติดต่อกันเขาเป็นการส่วนตัว แต่เราได้พยายามซึ่งเขาไปอีกทาง มันแย่สำหรับเราที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขา”

โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ช เชลซี ไม่หวั่นแม้วันมามากกับโปรแกรมแข่งสุดหินสี่เกมติดไล่ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนหน้า ชี้เป็นความท้าทายที่จะรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไปเป็น 12 แมตช์จงได้ ทูเคิ่ล มารับตำแหน่งเฮดโค้ชแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมื่อม.ค.ที่ผ่านมา คุมทีมแล้ว 8 นัดทุกรายการสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น (ชนะ 6, เสมอ 2) สถานการณ์ในลีกรั้งอันดับห้าตาราง ตามหลังพื้นที่ชปล.แค่ 2 แต้ม ซึ่งบอสวัย 47 ปีได้เดินทางมาถึงช่วงพิสูจน์กึ๋นคู่แข่งโหดไล่จาก ชปล.รอบ 16 ทีม นัดแรกที่เอาชนะ แอต.มาดริด 1-0  ต่อด้วยเกมลีกอีกสามนัดเจอทีมกลุ่มท็อป 7 ไล่จาก แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน) และ เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)  งานนี้กุนซือดอยช์ยอมรับว่าหินแต่ก็จะผ่านมันไปให้ได้  “ก่อนนั้นมี ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ (ชนะ สเปอร์ส 1-0), มีแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ แอต.มาดริด, ต่อด้วยต้องเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และเอฟเวอร์ตัน ในลีก ถือเป็นโปรแกรมสำคัญ เป็นความท้าทายที่จะต้องพิชิตให้ได้” ทูเคิ่ล เปิดปาก “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้ พวกเรามุ่งมั่นไปกับการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับวันอาทิตย์ หากคว้าชัยสำเร็จมันจะเป็นสิ่งที่สำคัญกับเรามาก หากพวกเขาชนะได้มันก็สำคัญสำหรับพวกเขาในการสร้างความแตกต่างกับเรา” “ก็ไว้รอดู ทีมเราตระหนักเรื่องนั้นดี อย่างการซ้อมมื้อวันศุกร์ไม่ใช่วันที่เราเน้นแท็คติค เพียงจับกลุ่มยืดเส้นยืดสาย ก็ไว้มื้อวันเสาร์คงใส่รายละเอียดให้มากที่สุด” ฤดูกาลนี้ เชลซี แพ้เกมเหย้าแค่สองหนให้ แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงและ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ส่วน ยูไนเต็ด ผลงานเจอ ‘บิ๊ก 6’ยังไม่ชนะใครเลย

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เซนเตอร์แบ็ก แมนฯ ยูไนเต็ด อยากได้ชื่อว่าเป็นทีมแรกที่สามารถยัดเยียดความปราชัยแก่ เชลซี ในยุคเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล แล้วพร้อมทำให้เกิดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ (28 ก.พ.) ทูเคิ่ล มารับตำแหน่งเฮดโค้ชแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมื่อม.ค.ที่ผ่านมา คุมทีมแล้ว 8 นัดทุกรายการสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น (ชนะ 6, เสมอ 2) สถานการณ์ในลีกรั้งอันดับห้าตาราง ตามหลัง ‘ปีศาจแดง’ แค่ 6 แต้ม   ดังนั้นการพบกันโดยตรงของ 2 ทีมกลุ่มบนตารางจึงสำคัญมากซึ่ง แม็คไกวร์ นอกจากคาดหวังทีมเล่นดีแล้ว ยังต้องเป็นค่ายแรกที่ทำให้ ‘สิงห์บลูส์’ ยุคใหม่ลิ้มรสคำว่าแพ้  “เอาจริงๆการพบ เชลซี นับเป็นเกมที่ยากแต่หากจำกันได้การไปเยือนที่ เดอะ บริดจ์ ซีซั่นก่อนเราชนะกลับออกมา ก็หวังฉายหนังม้วนเดิม” แม็คไกวร์ ที่ทำประตูปิดกล่อง 2-0 ฤดูกาลที่แล้วเผยกับเว็บไซต์ทางการ  “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้ พวกเรามุ่งมั่นไปกับการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับวันอาทิตย์ หากคว้าชัยสำเร็จมันจะเป็นสิ่งที่สำคัญกับเรามาก หากพวกเขาชนะได้มันก็สำคัญสำหรับพวกเขาในการสร้างความแตกต่างกับเรา” “ก็ไว้รอดู ทีมเราตระหนักเรื่องนั้นดี อย่างการซ้อมมื้อวันศุกร์ไม่ใช่วันที่เราเน้นแท็คติค เพียงจับกลุ่มยืดเส้นยืดสาย ก็ไว้มื้อวันเสาร์คงใส่รายละเอียดให้มากที่สุด” ฤดูกาลนี้ เชลซี แพ้เกมเหย้าแค่สองหนให้ แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงและ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ส่วน ยูไนเต็ด ผลงานเจอ ‘บิ๊ก 6’ยังไม่ชนะใครเลย

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ เชลซี เผยว่าความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สมัยคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพเลย ย้อนกลับไปในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาล 2018/19 ที่ ทูเคิ่ล นำทัพเปแอสเชเจอกับ “ปีศาจแดง” ซึ่งเกมแรกทีมก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการบุกชนะถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-0 แหย่เท้าเข้ารอบต่อไปแล้วหนึ่งข้าง แต่ว่าในเกมที่สองทีมกลับแพ้ 1-3 กระเด็นตกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะประตูที่สามของฝั่งยูไนเต็ดจากจุดโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ทำให้ทีมไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย ถือเป็นเกมที่แฟนบอลปารีสช็อกกันไปตามๆกัน ทูเคิ่ล ปัจจุบันคุม เชลซี เตรียมเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ ซึ่งทางเทรนเนอร์ชาวเยอรมันยอมรับว่าเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกนั้นเป็นประสบการณ์สุดเลวร้ายในอาชีพของตัวเองเลย “ผมขอพูดตามตรงเลยนะ ผมอยู่ในความมืดมนอยู่สองวันเลยและผมบอกคุณได้เลยว่าผมไม่สามารถพูดกับใครได้และคิดถึงอะไรเลยนอกจากเรื่องของความพ่ายแพ้นั้น” ทูเคิ่ล กล่าว…

วิลเลี่ยน ปีกจอมเก๋า อาร์เซน่อล ยอมรับตามตรงไม่ได้ต้องการย้ายออกจาก เชลซี ในซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ตกลงสัญญาใหม่ไม่ได้จึงต้องโบกมือลาย้ายมาร่วมทีมคู่ปรับอย่าง “ปืนใหญ่” วิลเลี่ยน ต้องการสัญญา 3 ปี แต่ เชลซี ให้ได้แค่ 2 ปี ทำให้ตัดสินอำลาทีมหลังสัญญาฉบับเดิมสิ้นสุด ก่อนเลือกเซ็นสัญญากับ อาร์เซน่อล ที่ยื่นข้อเสนอให้ 3 ปีตามต้องการ แข้งบราซิเลี่ยน กล่าวว่า “ด้วยการที่ทั้งสองสโมสรเป็นคู่แข่งกันทำให้มันเป็นการตัดสินที่ยากมาก ผมต้องไตร่ตรองให้ดี ผมคุยกับภรรยาและเอเยนต์หลายครั้งมาก” “ผมไม่อยากย้ายสโมสร ผมเปิดโอกาสรอเอาไว้ ทุกคนรู้ในเงื่อนไข อันที่จริงผมต้องการจะอยู่ต่อ แต่สุดท้ายเราตกลงกันไม่ได้” “ผมอยากได้สัญญา 3 ปี แต่เชลซีให้ได้เพียง 2 ปีซึ่งก็ตรงกับที่ทุกคนรู้กันมา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงตัดสินใจย้าย (ร่วมทีม อาร์เซน่อล)” วิลเลี่ยน กล่าว 

โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีม เชลซี ยืนยันว่า ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังจอมเก๋าจะไม่สามารถช่วยทีมดวล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้ ซิลวา ได้รับบาดเจ็บต้นขามาจากเกมลีกที่ เชลซี บุกชนะ สเปอร์ส 1-0 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทำให้พักยาวจนถึงปัจจุบันและจะพลาดเกมสำคัญที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้  ทูเคิ่ล กล่าวว่า “เขาฝึกซ้อมส่วนตัวได้แล้ววันนี้ และเรารู้สึกว่าดีขึ้นมาก มันเป็นก้าวสำคัญที่รอเขาอยู่ ผมหวังว่าเขาจะกลับมาร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า” ปัจจุบัน เชลซี รั้งอันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีกเวลานี้และตามหลังท็อปโฟร์อยู่ 2 คะแนน รวมถึงตาม แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงอยู่ 6 แต้มด้วยกัน ทว่าในยุคของ ทูเคิ่ล ที่คุมทีม 8 นัด ยังไม่แพ้ใครเลยและเสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น