แลมพาร์ด คอนเฟิร์มไว้ก่อนหน้านี้ว่า คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย จะได้ออกสตาร์ตในเกมกับสิงห์ผงาดคืนวันนี้ แต่ ฮาคิม ซิเยค ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บต่อไป “จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมในบางตำแหน่ง” แลมพาร์ด กล่าว “ผมรู้เรื่องนี้อยู่แล้วและผมคงไม่มาโอดครวญป่าวเกี่ยวกับการแข่งขันที่ถี่ขนาดนี้ หลังจากผลงานของพวกเราในนัดพบอาร์เซนอล มันไม่ใช่จุดที่สำคัญ แต่การลงเล่นใน 2 วันถัดมาเราจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงทีม และบางส่วนในนั้นจะเกิดขึ้นเพราะแนวทางที่การแข่งขันมันเป็นไป” “นักเตะต้องลงสนามและอัดฉีดพลังงานรวมทั้งบุคลิกที่ปกติมีอยู่ในผลงานของพวกเรา เหตุผลที่เราไม่แพ้ให้คู่แข่งมาหลายนัดก็เป็นเพราะเรื่องนั้น สิ่งดังกล่าวขาดหายไป เราต้องรีบเอามันกลับมาให้ได้โดยเร็ว”
ต่ำกว่ามาตรฐาน! โอดอยผิดหวังเกมพ่ายปืน
คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ผิดหวังอย่างแรงกับผลงาน เชลซี เกมวานนี้ที่ออกไปพ่าย อาร์เซน่อล 1-3 เพราะจัดว่าต่ำมาตรฐานทุกด้าน หวังจะแก้ไขให้ดีกว่าเดิมในแมตช์ต่อไป ‘สิงห์บลูส์’ ออกไปเสียท่าที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำให้ปราชัยฐานะทีมเยือนสามเกมติด แต้มนิ่งที่ 25 คะแนน จนตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 6 แต้มแถมแข่งมากกว่าหนึ่งเกม จากเคยถูกมองว่าเป็นทีมลุ้นแชมป์ เชลซี ต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ซึ่งสตาร์หนุ่มเลือดผู้ดีมองว่าทีมยังฟื้นตัวได้ “ผมโดนเปลี่ยนลงสนามตอนสกอร์ตามหลัง 0-2 ก็บอกตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อพลิกเกม ทำอย่างไรถึงสกอร์เพื่อไล่เข้ามา น่าเสียดายมาโดนอีกเม็ดตามหลัง 0-3 แต่ทีมยังมีความมั่นใจ เชื่อลึกๆว่าตีเสมอได้เป็นอย่างน้อย ก็พยายามบี้จนจบเกม เจ็บใจที่ไม่สามารถผลการแข่งขันดังหวัง” ฮัดสัน-โอดอยกล่าวกับเว็บไซต์ทางการ “ทีมออกตัวช้า เราทราบเรื่องนั้น ความรู้สึกประมาณทำตัวเองแท้ๆ ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าสามารถทำได้ดีกว่าเกมที่เพิ่งผ่านไป” ดาวเตะวัย 20 ปีไม่ต้องรอนานสามารถแก้ตัวในวันจันทร์ที่จะเปิดบ้านพบ แอสตัน วิลล่า ( 28 ธ.ค.) เกมส่งท้ายปี “มีเวลาถึงวันจันทร์เพื่อกลับไปทบทวนตัวเอง หวังว่าเราจะสามารถกู้ผลงานได้ เราทราบว่าสามารถยกระดับมันขึ้นไปในทุกๆด้าน ก็ต้องกลับไปเน้นที่สนามซ้อม ทำงานให้หนักแก้ไขทุกความผิดพลาด” วิลเลี่ยม ฮิลล์ บ่อนใหญ่ของอังกฤษขานรับความปราชัยของ เชลซี ปรับราคาแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้จาก 12/1 (แทง 1 จ่าย 12 ไม่รวมทุน) ก่อนแข่งมาเป็น 20/1 (แทง 1 จ่าย 20 ไม่รวมทุน)
โคตรผิดหวัง! แลมพาร์ดตำหนิลูกทีมหลังพลาดท่าแพ้อาร์เซนอล
แฟร้งค์ แลมพาร์ด เทรนเนอร์เชลซีออกมาตำหนิผลงานนักเตะของทีมว่าทำได้น่าผิดหวัง และสร้างความผิดพลาดมากมายจนต้องปราชัย สิงโตน้ำเงินคราม บุกไปแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปราชัยนอกรังในลีกเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน “ในครึ่งหลังเราแสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบแต่มันก็สายเกินไป ครึ่งแรกเราทำให้ตัวเองมีงานเยอะเกินไป เราแย่มากๆ ในศึกพรีเมียร์ลีกคุณไม่สามารถขาดเรื่องพลังงานกับความต้องการ และเราทำเช่นนั้น “คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างที่ต้องการ แต่ถ้าคุณทำเช่นนั้นไม่ได้มันก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง มันเป็นเรื่องของจิตใจ “ถ้าคุณทำงานต่ำกว่ามาตรฐานคุณก็จะเจอประตูของ ซาก้า นั่นคือชีวิต ในวันอื่นๆ เราน่าจะทำประตูจากจุดโทษได้และกลับมาสู่เกม แต่มันไม่ใช่วันของเรา “บรรดาทีมที่เอาชนะได้อย่างไม่ลดละไม่ได้คว้าแชมป์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเรายังไปไม่ถึงจุดนั้น มันรู้สึกว่าในตอนที่เราอยู่ในเส้นทางเอาชนะต่อเนื่องและผมรู้สึกถึงมันในตอนนี้ วันนี้เราผิดพลาดมากมาย”
เดือดจัด! แลมพาร์ดออกอาการหัวเสียหลังพาทีมแพ้อาร์เซนอล
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซีออกอาการหัวเสียอย่างมากหลังจากปราชัยให้กับ อาร์เซน่อล ในนัดที่ผ่านมา สิงโตน้ำเงินคราม บุกไปแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปราชัยนอกรังในลีกเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน หลังจบเกมนายใหญ่สิงห์บลูส์ระบุกับ สกาย สปอร์ตส์ ว่าไม่พอใจกับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นและทุกๆ คนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ร่วมกัน “มันไม่ดีพอ เราสู้อย่างหนักในครึ่งหลัง แต่ในครึ่งแรกเราทำให้ตัวเองมีสิ่งที่ต้องทำมากมายจนเกินไป นักเตะที่ถูกส่งลงไปเพิ่มในเรื่องของความเร็วและความกระตือรือร้น “ผมจะรับผิดชอบเรื่องข้างนอกแต่บรรดานักเตะก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ข้อความชัดเจน อาร์เซน่อล เป็นทีมอันตราย เมื่อคุณลงสนามและเล่นเพียง 60 หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ คุณจะไม่สามารถเอาชนะได้ “ผมโกรธเพราะผมต้องการให้เราเอาชนะ มันเป็นโอกาสสำคัญในการขึ้นที่สอง คุณได้ในสิ่งที่สมควรได้รับ”
พักทำไม! แลมพาร์ดเผยเหตุผลเปลี่ยนตัวแวเนอร์ครึ่งแรก
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือสิงห์บลูส์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจากการถอด ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกทีมชาติเยอรมนี ออกหลังจบครึ่งแรก โดยผู้จัดการทีมชาวอังกฤษเผยเหตุผลว่า “ผมต้องให้พวกเขาลงสนาม เพื่อเร่งเครื่อง ทิโมให้พวกเราได้ไม่มากพอ เขาไม่สามารถเก็บบอลได้ ผมจึงต้องเปลี่ยนแปลง” “เราจะได้เห็นกัน เป้าหมายที่ไม่สามารถทำได้ คือสิ่งที่เขาจะถูกตัดสิน แต่ผมสามารถทำได้มากกว่านั้น” หลังจากความพ่ายแพ้ของเชลซีในศึกลอนดอนดาร์บี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ติโม แวร์เนอร์ ยังคงสถิติยิงใครไม่ได้เป็นนัดที่ 10 ติดต่อกัน (รวมทุกรายการ)
โดนตัดหน้า! แมนยูตัดหน้าเชลซีคว้าดาวรุ่งเอกวาดอร์
มีรายงานออกมาว่า แมนยู สามารถเอาชนะ เชลซี ได้สำเร็จในดีลการดึงตัว มอยเซส ไซเซโด้ ดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกหนังเอกวาดอร์ มาร่วมทีมด้วยสำเร็จ จากรายงานของ express.co.uk เมื่อ 25 ธันวาคม 2563 สำหรับ ไอ้หนูมอยเซส ไซเซโด้ วัย 19 ปี ถือว่าเป็นกองกลางดาวรุ่งที่หลาย ๆ ทีมในยุโรปอยากได้ตัวไปปลุกปั้น เพื่อเอามาลุยตารางบอลกันในอนาคตต่อไป ทว่าล่าสุดดูเหมือนว่าแมนยูจะวินในดีลนี้ไปแล้ว โดยทาง ผู้อำนวยการกีฬาของ อินเดเพนเดียนเต้ เดล วัลเล่ ได้เผยว่า “มันมีความสนใจจากทางฝั่งยุโรปเข้ามามากมายจริง ๆ และตอนนี้กำลังมีการพูดคุยกับสโมสรหนึ่งอยู่ ซึ่งนักเตะจะไม่ได้อยู่กับเราต่อในปีหน้าแน่ ๆ แล้ว” ทั้งนี้ ก่อนหน้ามีข่าวว่า เชลซี เองก็อยากได้แข้งวัย 19 ปี ไปครอบครองเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่านักเตะจะตกลงไปปลงใจไปเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซะแล้ว
เปรยไว้ก่อน! แลมพาร์ดออกตัวอาจไม่ได้ใช้นักเตะชุดหลักช่วงบ็อกซิ่งเดย์
แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี ออกตัวล่วงหน้าว่าสองเกมส่งท้ายปี 2020 คงไม่สามารถใช้นักเตะชุดเดียวกันเตะในรอบ 48 ชั่วโมงได้ จึงต้องบริหารขุมกำลังระหว่างเกม อาร์เซน่อล และ แอสตัน วิลล่า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ‘สิงห์บลูส์’ ออกไปเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เสาร์นี้ แถมวันจันทร์ต้องกลับมาเปิดบ้านรับมือ ‘สิงห์ผงาดอีก’ นับว่ากรำร่างกายไม่น้อย ต่อให้บอสวัย 42 ปีขุมกำลังใหญ่แต่ก็เลี่ยงโรเตชั่นไม่ได้ “กับสองเกมรอบ 48 ชั่วโมง ผมไม่สามารถคาดหวังว่านักเตะจะลงเล่นด้วยพลังงานและผลงานในระดับสูงได้” แลมพาร์ด กล่าวกับเว็บไซต์ทางการ “ ทุกสโมสรในพรีเมียร์ ลีกมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬา พอเราลงเล่นตอนนี้ วันที่ 2 หลังจบแมตช์นั้นจะเป็นการฟื้นฟูร่างกาย” “อย่าว่าแต่การลงเล่น 90 นาทีเลยนะ มันไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับนักเตะในการลงซ้อมในระดับสูงหรือระดับกลาง ทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีกทราบเรื่องนี้ดี ทางลีกเองก็รู้ ดังนั้นพวกเขาต้องแจ้งผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด เพราะเครือข่ายโทรทัศน์ก็อยากได้เกมคุณภาพเช่นกัน” “ออกตัวว่าต้องโรเตชั่นนักเตะ ก็ขอดูหลังเกมกับ อาร์เซน่อล ว่าสภาพความฟิตของนักเตะเป็นแบบไหน ผู้เล่นเตะละรายสภาพแตกต่างกัน เราจะรับมือกับเรื่องนี้ให้เหมาะสมที่สุด” ทีมของ แลมพาร์ด ถือว่ามีคิวเตะยากเพราะนอกจากสองนัดข้างต้นแล้ว การประเดิมศักราชใหม่ ( 3 ม.ค.) ก็ต้องเปิดบ้านพบ แมนฯ ซิตี้
พอใจสุดๆ! แลมพาร์ดพอใจผลงานทีมหลังพัฒนามาเรื่อยๆจากต้นซีซั่น
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่ม เชลซี พอใจผลงานของทีมที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่นที่ทีมยังต้องปรับหลายจุด แต่ตอนนี้หวังลุ้นแชมป์เต็มตัวแล้ว แลมพาร์ด ไม่ปิดบังความจริงในใจที่กำลังมีความสุขกับผลงานโดยรวมของทีมในฤดูกาลนี้ และเชื่อว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกเรื่อยๆ จนก้าวไปลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกจนถึงบั้นปลาย “ผมแฮปปี้ แต่ในฐานะผู้จัดการทีมแล้ว เราต้องการมากกว่านี้เสมอ” “ความจริงคือตอนเริ่มต้นฤดูกาล เรามีนักเตะใหม่เข้ามาเพิ่ม ขณะที่บางคนหายหน้าไป เราขาดช่วงเวลาปรีซีซั่น มองดูผลการแข่งขันในช่วงต้น มีทั้งดีและแย่” “จากนั้น เราก็มีผลงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเห็นถึงการปรับปรุงอย่างมากภายในทีม ผมจึงมีความสุข แต่เราต้องการมากกว่านี้” “เราต้องการท้าชิงแชมป์ แต่บางครั้ง เราก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องดูกันไปแบบก้าวต่อก้าว เราเพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าเรามีความสามารถที่จะเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก”
แย่มาก! แลมพาร์ดจวกคนจัดโปรแกรมพรีเมียร์ลีก
แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ออกโรงตำหนิพรีเมียร์ลีกที่จัดโปรแกรมให้ลงเล่น 2 นัดในรอบ 48 ชั่วโมง ขณะที่หลายทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ได้มีเวลาพักมากกว่า เชลซี ต้องลงเล่นนัดบ็อกซิ่งเดย์ด้วยการไปเยือน อาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม จากนั้นกลับไปเล่นในบ้านรับมือ แอสตัน วิลล่า ในวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม ขณะที่ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส มีเวลาพักมากกว่าเพราะลงเล่นในวันอังคาร แลมพาร์ด ให้สัมภาษณ์อย่างมีอารมณ์ว่า “ความจริงที่ว่ามันเป็น 2 เกมใน 48 ชั่วโมงคือเรื่องสำคัญนะเพราะมีทีมอื่นที่ลุ้นแชมป์ได้เล่น 2 เกมใน 3 วัน” “มันไม่เข้าท่าสำหรับคุณภาพของพรีเมียร์ลีก มันเสี่ยงสำหรับนักเตะด้วยหากพวกเขาต้องลงเล่นสองนัดในการแข่งขันกีฬาระดับสูงสุด” “ผมรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเรื่องนี้เพราะมันเป็นเกมที่ถูกถ่ายทอดสด เราเล่นกับ อาร์เซน่อล ในวันบ็อกซิ่งเดย์ และเกมที่พบกับ แมนฯ ซิตี้ ย้ายไปวันอาทิตย์” “ตารางแข่งขันนั้นสามารถย้ายไปเล่นในวันอังคารได้ซึ่ง แอสตัน วิลล่า ก็ต้องการเช่นกัน แต่พรีเมียร์ลีกและการถ่ายสดก็มีอำนาจมากกว่าพวกเรา…
ขออีกซักครั้ง! มาติชรับต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนตอนอยู่เชลซี
เนมานย่า มาติช กองกลางจอมเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ปิดบังว่ามีความฝันอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีมให้ได้ เหมือนที่เคยทำสำเร็จกับ เชลซี มาติช เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 2 สมัยกับ เชลซี ในฤดูกาล 2014/15 และ 2016/17 ก่อนย้ายมาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2017 ในฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในสถานการณ์ลุ้นแชมป์เต็มตัวหลังรั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลัง ลิเวอร์พูล 4 คะแนน และมีโอกาสจี้เหลือคะแนนเดียวหากบุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ มาติช กล่าวถึงโอกาสลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ว่า “แน่นอนว่ามันจะเป็นการทำฝันให้เป็นจริงอีกครั้งหลังจากได้แชมป์มาแล้วสองสมัยที่ เชลซี” “หากว่าเรามีความโชคดีอยู่บ้างและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จ ก็จะเท่ากับสิ่งที่ผมทำได้ที่ เชลซี” “ตอนนี้ร่างกายผมดีเยี่ยมและหวังจะเล่นในระดับสูงสุดได้อีก 4-5 ปี” แข้งวัย 32 ปีกล่าว