ชุมชนคนรักสิงโตคำราม

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ยกย่องผลงานของ อักเซล ดิซาซี่ เซนเตอร์ เชลซี ในเกมที่บุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา     ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำประตูให้ “สิงห์บลูส์” ออกนำที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในครึ่งแรก แต่เจ้าบ้านมาตีเสมอได้จาก โรดรี้ ในช่วงท้ายเกม ซึ่งทาง คาร์ราเกอร์ ประทับใจผลงานของ ดิซาซี่ อย่างมากพร้อมยกขึ้นไปเทียบกับฟอร์มของ จอห์น เทอร์รี่ ตำนานของสโมสรเลย     “ผมนึกไม่ออกเลยว่ามีการเล่นเกมรับที่ดีกว่านี้อีกในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าจากปราการหลังตัวกลาง กับการมาเยือน แมนฯ ซิตี้ เผชิญกับกองหน้าดีที่สุดในโลก” คาร์ราเกอร์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์     “เขาสุดยอดมาก เขาเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์, ผมไม่คิดว่าผมได้พูดไปตอนออกอากาศ…

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลาง เชลซี ยืนยันว่ารู้สึกผิดหวังที่โดน แมนฯ ซิตี้ ไล่ตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม แต่ก็พอใจกับการได้แต้มในการมาเยือนเอติฮัด สเตเดี้ยม “เราผิดหวังเล็กน้อย เพราะเราน่าจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ พวกเขาอาจครองบอล ครองเกมก็จริง แต่ผมรู้สึกว่าเรามีโอกาสมากมายที่จะชนะในเกมนี้ เราผิดหวังที่เสียประตูช่วงท้าย แต่ก็พอใจกับหนึ่งแต้ม” “เราโต้กลับพวกเขาได้ดี ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นผลการแข่งขันที่ยุติธรรมในที่สุด” “ผมคิดว่าเรามีโอกาสหรือสองโอกาสที่จะได้ลูกที่สอง และเราทำไม่ได้ แต่พวกเขาก็มีโอกาสเช่นกัน และมันอาจไปทางไหนก็ได้” เมื่อถูกถามว่าครึ่งหลังยากแค่ไหน? กัลลาเกอร์ กล่าวว่า “ยากมาก ผมรู้สึกว่าพวกเราเก่งมากและเกมรับเรามีสมาธิมาก เราเหนื่อยมากแต่ก็ผ่านมันมาได้และเราพอใจกับฟอร์ม” จากนั้น กัลลาเกอร์ ก็ถูกถามว่าผลการแข่งขันนี้สร้างความมั่นใจให้ก่อนนัดชิงคาราบาว คัพ ในสัปดาห์หน้าหรือไม่? เขาตอบว่า “มันเป็นแบบนั้นแหละ ผมรู้สึกว่าเพื่อนๆ มีความมั่นใจ เรามีฟอร์มที่ดี และจากนั้นก็ในวันนี้ที่พบกับทีมระดับท็อป ผมรู้สึกว่าเรากำลังเข้าสู่เกมถัดไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก และเรารู้สึกตื่นเต้นกับมัน”

โรดรี้ เอร์นานเดซ กองกลาง แมนฯ ซิตี้ ออกมาติงว่าทีมของตนต้องเล่นเกมรับให้ดีกว่านี้ หลังทำได้เพียงไล่ตีเสมอ เชลซี ช่วงท้ายเกม 1-1 “มันเป็นหนึ่งแต้ม เป็นผลเสมอ แน่นอนว่าเราต้องการชนะ และวิธีการที่เราเล่นในครึ่งหลังเราน่าจะได้อะไรมากกว่านี้อีกนิดหน่อย แต่เมื่อคุณเล่นเกมรับแบบที่เราทำ คุณจะไม่สามารถได้อะไรมากกว่านี้หรอก (ผลเสมอ)” “มันอยู่ในมือเรา และเราแต่ละคนต้องทำให้ดีกว่านี้ และคุณจะปล่อยให้เกมดำเนินไปแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ได้โทษใคร แต่เราต้องรับผิดชอบหากเราต้องการคว้าแชมป์ลีก” “เรามีโอกาสที่จะชนะ และผมรู้สึกถึงโมเมนตัม แต่บางครั้งมันก็น่าหงุดหงิดนิดหน่อยและบอลมันก็ไม่ยอมเข้าประตู ผมไม่อยากพูดถึงผู้ตัดสิน แต่ผมจำไม่ได้ว่าเกมไหนที่มีการเช็กวีเออาร์เยอะขนาดนี้ และไม่ช่วยอะไรเราเลย คุณมักจะเห็นใบหน้าของผู้ตัดสิน และตอนนี้ก็ต้องมูฟออน” “ยังเหลืออีกไกลว่าจะจบฤดูกาล เราต้องเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด เรามีผลงานที่ดีและเรารู้ว่าไม่มีใครในพวกเขา 3 ทีม (แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล) จะชนะทุกเกมจนจบหรอก เราต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป” “เรามีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของช่วงสุดท้ายของซีซั่น เราต้องการชนะ แต่เราต้องเช็กตัวเอง และในครึ่งแรกด้วยเกมรับของเรา เราต้องแกร่งขึ้นในช่วงที่เหลือของฤดูกาล”

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ เชลซี เปิดเผยว่ารู้สึกภูมิใจในตัวลูกทีม หลังบุกไปเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม แบบที่เกือบจะชนะด้วย “ผมยินดีมาก ผมบอกกับผู้เล่นว่าผมรู้สึกภูมิใจมาก ใน 3 นัดหลังสุดเราเริ่มสร้างสปิริตที่ดีมาก นั่นคือวิธีที่เราต้องการสร้างทีมของเรา วันนี้เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้แสดงให้เห็น เรากำลังไปในที่ที่เราต้องการ” “ครึ่งแรกมันดีมาก เราปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวในการพบทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งสำหรับผมแล้วคือทีมที่ดีที่สุดในโลก” “ในครึ่งหลังพวกเขาบังคับให้คุณต้องถอยต่ำ แต่เราสร้างโอกาสในการทำประตูที่สอง และหากทำได้สิ่งต่างๆ อาจแตกต่างออกไป สิ่งสำคัญคือผู้เล่นต้องตระหนักว่าฟุตบอลมีการแข่งขันที่สูงมาก และเพื่อไปให้ถึงระดับที่เราต้องการ เราต้องเจอความลำบาก” “ตอนนี้เราจะมีเกมที่ดีมากกับ ลิเวอร์พูล (นัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ) สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเชื่อมั่นต่อไป ตอนนี้เราต้องฟื้นตัวและเตรียมพร้อมสำหรับเกมนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ราฮีม สเตอร์ลิง แนวรุก เชลซี เผยว่าตนเองมีทั้งความรู้สึกพอใจและผิดหวังในเวลากันหลังจบเกมนัดล่าสุด สิงโตน้ำเงินคราม บุกเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ของสโมสรจากลอนดอนตอนนี้มีเพิ่มเป็น 35 คะแนนจากการลงสนาม 25 นัด “พวกเราพอใจในตอนที่เกมจบลง แต่เวลาเดียวกันก็ผิดหวังเล็กน้อย พวกเรามีโอกาสปิดเกมดังกล่าว” แนวรุกชาวอังกฤษซึ่งทำประตูให้ทีมออกนำเผยกับ บีบีซี “พวกเรารู้ว่าพวกเขาเป็นทีมที่เล่นกับบอลได้ดีมากๆ และจะมีช่วงเวลาในตอนที่พวกเราต้องใช้สมองในการเล่น พวกเราผิดหวังที่ไม่ได้อะไรมากกว่านี้ “สิ่งที่พวกเราต้องทำก็แค่รักษาความต่อเนื่องและเดินหน้าต่อไป (รอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ กับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์หน้า) ถือเป็นอีกบททดสอบและโอกาสครั้งสำคัญ พวกเราต้องลงสนามพร้อมแนวคิดที่อยากคว้าแชมป์มาครอง “(จังหวะทำประตูในนัดล่าสุด) ผมรู้สึกว่า (ไคล์ วอล์คเกอร์) เข้ามาเร็วมาก ผมก็เลยแตะหนี และขอบคุณที่ทำประตูได้”

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ อดีตกองหน้าคนดังข้องใจกับการตัดสินใจของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่เปลี่ยนทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ โคล พาลเมอร์ ออกจากสนามในเกมที่บุกเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ผ่านมา     สเตอร์ลิ่ง เป็นคนที่ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมในเกมนี้และโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ แต่กลับโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาที 64 ของเกมให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ลงสนามมาแทน     นอกจากนี้ พาลเมอร์ ที่สามารถเล่นเกมในจังหวะสวนกลับได้ดีก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไปเช่นในนาที 71 ในขณะที่ทีมนำอยู่ 1-0 ให้ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ลงสนามแทนหวังขันเกมรับให้แน่นมากขึ้น แต่สุดท้ายก็มาเสียประตูให้ โรดรี้ ช่วงนาที 83     ทาง สเตอร์ริดจ์ เชื่อว่า โปเช็ตติโน่ ควรจะเก็บ สเตอร์ลิ่ง และ พาลเมอร์ เอาไว้ในสนามเพื่อตอบโต้ในจังหวะสวนกลับมากกว่าแค่ถอยไปรับเต็มตัว      “คุณก็คงเห็น สิ่งต่างๆ…

เชส ฟาเบรกาส อดีตมิดฟิลด์ของ เชลซี เตือนทีมเก่าอย่าลงไปเล่นเกมรับลึกจนเกินไปในการไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะอาจจะโดนกดกันหนักจนไม่ได้เล่นเกมรุกเลยก็ได้     “สิงห์บลูส์” ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดนับจากนี้เพื่อโอกาสในการลุ้นท็อปโฟร์ของตาราง และการไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ถือเป็นเกมหนักเพราะ “เรือใบ” ก็ต้องการแต้มเพื่อลุ้นแชมป์เช่นกัน     เมื่อถูกถามถึงรูปแบบการเล่นของ เชลซี ที่จะถอยลงไปรับลึกแล้วใช้เกมสวนกลับหรือไม่ ทาง เชส บอกว่า “นี่อาจจะเป็นทางเลือกก็ได้ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่ทำแบบนั้น”     “เราจะได้เห็นกันว่าจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการอะไรสักอย่างจากเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คุณต้องมีความกล้าหาญไปพร้อมๆ กันด้วย”     “ผมไม่คิดว่านักเตะที่ เชลซี มีจะสามารถตัดสินใจถอยลงไปรับลึกและเล่นเกมสวนกลับได้ เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนั้น บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้โอกาสทำประตูเลยก็ได้ ผมรู้สึกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลืนกินคุณทั้งเป็นเมื่ออยู่ในพื้นที่สุดท้าย”     “เมื่อคุณมีนักเตะอย่าง ไกเซโด้, อย่าง เอ็นโซ่, อย่าง โคล พาลเมอร์ พวกเขาไม่ชอบที่จะเล่นเกมรับตลอดทั้งเกม ผมคิดว่าพวกเขาจะเกลียดมัน พวกเขาจะหงุดหงิดและท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะยอมแพ้”   …

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ของ เชลซี หนุน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ โคล พาลเมอร์ ให้ฉลองอย่างเต็มที่หากสามารถทำประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้     “สิงห์บลูส์” จะเดินทางไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ โดยทีมฝากความหวังการทำประตูไว้กับ พาลเมอร์ รวมถึง สเตอร์ลิ่ง ที่เคยค้าแข้งกับ “เรือใบ” มาก่อน     ทั้งสองคนทำประตูได้ในเกมที่เสมอกัน 4-4 เมื่อต้นซีซั่นนี้ แต่เป็นเพราะการยิงทีมเก่าทำให้การฉลองไม่เต็มที่นัก ซึ่งทาง โปเช็ตติโน่ กระตุ้นทั้งคู่ให้เฮอย่างเต็มที่แบบไม่ต้องกั๊กหากยิงประตูได้อีกครั้ง     “ถ้าพวกเขาฉลองประตู มันคือฟุตบอล ถ้าพวกเขาไม่ฉลองและต้องการแสดงให้เห็นถึงความเคารพก็ไม่เป็นไร แต่ผมคิดว่าเมื่อคุณทำประตูได้คุณต้องฉลองมัน” โปเช็ตติโน่ กล่าว     “คุณสามารถเล่นงานสโมสรเก่าและหลังจากที่คุณพูดว่า ‘ขอโทษ’ เมื่อคุณเล่นให้กับเสื้อตัวที่แตกต่างกัน กับตราสัญลักษณ์และสโมสร คุณไม่อาจที่จะหยุดความรู้สึกได้”     “เมื่อคุณทำประตู มันเป็นความรู้สึกที่สวยงามที่สุดในร่างกายของคุณและคุณไม่อาจจะที่จะบอกว่า ‘อ่าห์, ไม่, ฉันไม่ต้องการฉลอง’…

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เฮดโค้ช เชลซี ประทับใจผลงานที่ดีวันดีคืนของกองกลาง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ทั้งเรื่องเพิ่มความเข้มข้นวิธีการเล่นเพื่อรับมือพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือการมีส่วนร่วมทำประตู ค่อยดูสมกับการลงทุน 105 ล้านปอนด์ซื้อจาก เบนฟิก้า 13 เดือนก่อน หากไม่เจ็บหรือร่างกายบอบช้ำ เอ็นโซ่ เป็นตัวยืนแดนกลางของ ‘สิงห์บลูส์’ ยุค โปเช็ตติโน่ ลงสนามไปแล้ว 30 นัดทุกรายการ ทำไป 7 ประตู, 1 แอสซิสต์ เทียบไม่ได้เลยกับครึ่งซีซั่นก่อนที่มีแค่ 2 แอสซิสต์  ความเข้าใจฟุตบอลเมืองผู้ดีมากขึ้น, พละกำลังที่เต็มถังกว่าเดิม และวางตำแหน่งให้วิ่งขึ้นสุด-ลงสุดกรอบเขตโทษตัวเอง-กรอบเขตโทษคู่แข่ง ล้วนเป็นปัจจัยให้แข้งแชมป์โลกปล่อยของ  “ผมคิดว่าเขามีขีดความสามารถในการวิ่งมากขึ้น และมันช่วยพัฒนาเราอย่างมาก” โปเช็ตติโน่ กล่าวในงานแถลงความพร้อมก่อนพบ แมนฯ ซิตี้ (17 ก.พ.) “เราสามารถเห็นเขาตั้งลำเกมบุกจากแดนหลัง แล้วจากนั้นไปโผล่เป็นผู้ทำประตู” “มันคือสัญญาว่าหมอนั่นพัฒนาขึ้นมากเพราะในตอนเริ่มต้นเขาจะค่อนข้างปักหลักกับที่และไม่ต้องรักษาพื้นที่มากมายเท่าปัจจุบัน”  “เอ็นโซ่ เป็นนักเตะที่มีขีดความสามารถเล่นแบบบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ และยิงประตูได้อีก” 

จอห์น สโตนส์ กองหลัง แมนฯ ซิตี้ นับถอยหลังการเผชิญหน้า โคล พาลเมอร์ อดีตทีมเมตที่เวลานี้ไปสวมเครื่องแบบ เชลซี จนกลายเป็นตัวหลัก แล้วจะนำทัพกลับมาเยือนถิ่นเก่าเป็นหนแรก (17 ก.พ.) โดยแข้งผู้ดีขู่ฟอดไม่ออมแข้งแน่นอน ผู้เล่นวัย 21 ปีย้ายจาก ซิตี้ มาในสนนราคา 40 ล้านปอนด์ บวกออปชั่นอีก 2.5 ล้านปอนด์ตามผลงานและความสำเร็จ ซึ่งโอกาสเป็นดีลที่คุ้มค่าของทุกฝ่ายเมื่อ พาลเมอร์ ซัดแล้ว 12 ลูกรวมทุกรายการ    เกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ที่จะถึงจึงสะเทือนอารมณ์เขาหลายอย่างในเมื่อเข้าสังกัด ซิตี้ ตั้งแต่ชุดอายุต่ำกว่า 8 ปี ดังนั้นเห็นหน้าเห็นตารุ่นพี่หลายๆคนจนสนิทพอสมควรโดยเฉพาะกับ สโตนส์  ก่อนเขี่ยเริ่มเกมความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมแต่เมื่อเสียงนกหหวีดดังเมื่อไหร่แข้งวัย 29 กะรัตบอกจะจับตายรุ่นน้องให้อยู่หมัด  “ย้อนกลับไปที่การพบกันหนแรกฤดูกาลที่ลอนดอนผลเสมอ 4-4 ผมเป็นแค่ผู้ชมวันนั้นถือว่า โคล เล่นดีเลย ก็ดีใจมากๆไปกับน้องมัน” การเปิดปากผ่านเว็บไซต์ทางการ  “ส่วนตัวค่อนข้างสนิมกับ โคล ดังนั้นก็เศร้านิดๆตอนน้องมันย้ายออกจากเราไป แต่มันคือเส้นทางที่เขากำหนดเอง เป็นการผจญภัยบนถนนนักเตะอาชีพ” “ถึงตอนนี้ก็ยินดีกับเขา…