โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ แสดงความเห็นก่อน ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์พบ เชลซี (29 พ.ย.) ว่าทีมซึ่งควรกดดันเรื่องตำแหน่งแชมป์ลีกไม่ใช่พวกเขาฐานะจ่าฝูง แต่ต้องเป็นสิงห์บลูส์เพราะซัมเมอร์ที่ผ่านมาเปย์รวม 230 ล้านปอนด์ มูรินโญ่ คืออดีตผจก.ทีม เชลซี สองคำรบเตรียมพาสังกัดใหม่บุกสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยชิงปฏิเสธความกดดันที่สื่อมวลชนยัดเยียดฐานะจ่าฝูง พร้อมโยนมันใส่ทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่จ่ายมือเติบความคาดหวังเรื่องโทรฟี่อย่างเป็นรูปธรรมย่อมสูง “เมื่อคุณถูกยกให้เป็นตัวเต็ง ก็สมควรต้องทราบว่าทำไมอยู่ในสถานะนั้น” บอส’ไก่เดือยทอง’ กรีดมีดโกนอาบน้ำผึ้ง “ผมเคยอยู่กับสโมสรที่คนนิยามว่า – แชมป์แห่งการใช้จ่ายในตลาด- นั่นเพราะเงินที่ทุ่มซื้อนักเตะลงไป เคยรับมือความกดดันนั้นมาก่อน แต่ปัจจุบันไม่ใช่ผมที่เป็นคนแบกความรู้สึกนั้นแล้ว” “โยนความกดดันไปที่พวกเขาโน่น ปล่อย สเปอร์ส เราอยู่อย่างสงบเถอะ” “แล้วเพราะเคยอยู่ เชลซี ถึงทราบความแตกต่างกับที่นี่ เอาเป็นว่าผมสนุกกับการร่วมตลาดซื้อ-ขายแรกกับ ท็อตแน่ม” “บันเทิงตรงที่มันต้องคิดให้ดีก่อนซื้อด้วยเม็ดเงินน้อยกว่า ดังนั้นคุณต้องหาสมดุลให้ดีกับทีม, ผิดพลาดไม่ได้, เลือกคนที่ใช่ แล้วก็มีความสุขมากกับผลลัพธ์ที่ได้มา เพราะทุกหน่อตอบโจทย์ เปล่งประสิทธิภาพดีสุดของแต่ละคนออกมา” ตลาดซัมเมอร์ 2020 สเปอร์ส ใช้เงินราว 75 ล้านปอนด์ ต่ำกว่า เชลซี สามเท่าได้ตัว เซร์คีโอ เรกีลอน, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, ซื้อขาด โจวานี่ โล เซลโซ่ จาก เรอัล เบติส และเช่า-ยืม แกเร็ธ เบล กับ คาร์ลอส วินิซิอุส
Tag: โชเซ มูรินโย
สองมาตรฐาน! มูรินโญ่เผยได้รับแรงกดดันมากกว่าแลมพาร์ดตอนคุมสิงห์
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของ สเปอร์ส ชี้ว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ของ เชลซี ไม่ได้เจอความกดดันในแบบเดียวกันกับตอนที่ตัวเองคุมทีมในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสนำพา “สิงห์บลูส์” ให้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวของอังกฤษและเวทียุโรแด้วยเม็ดเงินของ โรมัน อบราโมวิช และเป็นที่รักใคร่สำหรับสาวกสิงโตน้ำเงินอย่างมาก อย่างไรก็ตามในการคุมทีมรอบที่สองเจ้าตัวโดนปลดออกจากตำแหน่งเซ่นผลงานอันย่ำแย่ของทีม แต่สองช่วงที่คุมทีมก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และ คอมมูตินี้ ชิลอีก 1 สมัย มูรินโญ่ เตรียมพาทีมบุกมาเยือนรังเก่าในศึกพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเจ้าตัวมองว่า แลมพาร์ด ไม่ได้เจอกับความกดดันเหมือนอย่างที่ตัวเองเคยเจอในการคุม เชลซี “สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือตอนที่ผมอยู่กับสโมสรแห่งนี้ มันมีความกดดันอย่างมหาศาลถาโถมเข้าใส่” มูรินโญ่ กล่าว “กับตอนนี้มันไม่มีความกดดันมากนักสำหรับโค้ชของทีม มีความกดดันเพียงเล็กน้อยใส่พวกเขาและให้พวกเขามีพื้นที่กับการทำงานของตัวเองได้”
เมินเป๊ป! ฟาเบรกาสยกมูรินโญ่คือเพื่อนแท้
เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ตัวเก๋าของ โมนาโก ยกให้ โชเซ มูรินโญ่ คือเพื่อนแท้ในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล แต่ไม่ขอพูดถึง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กองกลางวัย 33 ปีย้ายจาก อาร์เซน่อล กลับไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า สมัยที่ เป๊ป นั่งเก้าอี้กุนซือ ก่อนจะมาเป็นลูกน้องของ มูรินโญ่ ที่ เชลซี ซึ่งเจ้าตัวชี้ว่าเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสมีส่วนช่วยอย่างมากและยกให้เป็นเพื่อน แต่ไม่ขอพูดถึงอดีตเจ้านายเก่าที่ คัมป์ นู เมื่อถูกถามว่าได้ติดต่อกับ เป๊ป บ้างหรือไม่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา, เชส กล่าวผ่านทางซีซีเอ็มเอว่า “ไม่เลย ไม่มี กับ เป๊ป ไม่เคยเลย” “ผมไม่รู้ว่าความผิดหวังกับ เป๊ป จะเกิดขึ้นจากทั้งสองฝั่ง สิ่งต่างๆเกิดขึ้น แต่ผมไม่ขอพูดถึงมัน, เป๊ป คือไอดอลของผมนับตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเรียนรู้จากเขาอย่างมากมาย บางทีตั้งแต่ผมอายุ 4 ขวบเลย”
เลือกได้ดี! มูรินโญ่เลือก8ผู้เล่นเชลซีเข้าติดทีมยอดเยี่ยมในดวงใจ
โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เลือก 8 ผู้เล่นทัพสิงห์บลูส์เข้าไปติดทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลที่เจ้าตัวเคยร่วมงานด้วย กุนซือโปรตุกีสเลือกเพตเตอร์ เช็ก เป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ซึ่งเช็กเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญชุดแชมป์ฤดูกาล 2004/05 เสียไปแค่ 15 ประตูในฤดูกาลนั้น จอห์น เทอร์รี่ และริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จับคู่เป็นสองปราการหลังตัวกลาง โดยมีวิลเลี่ยมส์ กัลลาส ประจำการทางกราบขวา สองในสามของแผงกองกลางชุดยอดเยี่ยมของเดอะ สเปเชี่ยลวัน มีชื่อของโคล้ด มาเกเลเล่ ในฐานะมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ที่คอยปัดกวาดเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงหน้าที่ของกองหลัง แลมพาร์ดเป็นนักเตะรายต่อมาที่ยืนเล่นในแผงกลางร่วมกับมาเกเลเล่ ซึ่งในเวลาต่อมา ซูเปอร์ แฟรงค์ ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวยอดเยี่ยมตลอดกาลของเชลซี และเป็นกุนซือใหญ่ของทีมอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าในสมัยที่มูรินโญ่คุมเชลซี เจ้าตัวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนทีมเป็นอย่างมาก ส่วนแดนหน้า มูรินโญ่เลือกดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ผนึกกำลังเกมบุกร่วมกับเอเด็น อาซาร์ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้
เกือบได้ย้าย! สื่ออิตาเลียนเผยเมสซี่เกือบโดนมูรินโญ่ทาบตัวไปเชลซี
ลิโอเนล เมสซี่ ถูกนักข่าวอิตาเลียนอ้างว่าเกือบถูก โชเซ่ มูรินโญ่ โน้มน้าวให้ย้ายไปค้าแข้งกับ เชลซี ในปี 2014 แต่ถูกคุณพ่อนักเตะและเอเยนต์ดับฝันซะก่อน จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ เหยี่ยวข่าวชาวอิตาเลียนอ้างว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เกือบล่อลวง ลิโอเนล เมสซี่ ย้ายไปค้าแข้งกับ เชลซี ในช่วงปี 2014 สำเร็จ แต่ถูกดับฝันโดย ฮอร์เค่ เมสซี่ บิดาของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์และเอเยนต์ของนักเตะไปก่อน จากหนังสือของเขาที่ชื่อ ‘แกรนด์ โฮเตล กัลโช่แมร์กาโต้’ ดิ มาร์ซิโอ อ้างว่า มูรินโญ่ พยายามล่อลวง เมสซี่ ให้ตัดสินใจย้ายไป ‘สแตมฟอร์ด บริดจ์’ ผ่านเฟซไทม์ ในขณะที่ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซีเตรียมเซ็นเช็คมูลค่า 225 ล้านปอนด์เพื่อจ่ายค่าฉีกสัญญานักเตะในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ทว่าแผนการของกุนซือชาวโปรตุกีสไม่ประสบความสำเร็จ สืบเนื่องจาก ฮอร์เค่ เมสซี่ บิดาของนักเตะและเอเยนต์เข้ามาดับฝันของ มูรินโญ่…
อยากร่วมงานด้วย! เมสซี่เผยอยากร่วมงานกับมูตอนคุมเชลซี
มิร์เรอร์ สื่อดังของอังกฤษเผยว่า ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ของ บาร์เซโลน่า ปรารถนาที่จะร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ สมัยที่เจ้าตัวยังเป็นเพียงดาวรุ่งและยังไม่ได้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ของทีมเต็มตัว ดาวเตะชาวอาร์เจนติน่าเปิดตัวในสีเสื้อ “อาซูลกราน่า” ในวัน 16 ปี 4 เดือนในเกมอุ่นเครื่องที่ทีมเจอกับ ปอร์โต้ สมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมเมื่อปี 2003 ก่อนที่ในปีนั้นนายใหญ่ชาวโปรตุเกสจะพาต้นสังกัดประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครอง ก่อนที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ สื่อแดนผู้ดีอ้างว่าในเวลานั้น เมสซี่ ในวัย 17 ปีมีการพูดคุยกับ มูรินโญ่ และต้องการที่จะย้ายไปร่วมทีม “สิงห์บลูส์” เพื่อร่วมงานกัน อย่างไรก็ตามสุดท้ายเป็น บาร์เซโลน่า ที่เข้ามาขวางทำให้การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น แต่ในฤดูกาลนั้น เมสซี่ ก็ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ก่อนที่จะค่อยยกระดับฝีเท้าและก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมพร้อมกวาดแชมป์มากมาย กระทั่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ส่วน มูรินโญ่ ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางกุนซือเช่นกันทั้งกับ เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์…
ยังเคารพ! แลมพาร์ดเผยยังนับถือมูรินโญ่แม้มีปากเสียงกัน
ในช่วงครึ่งแรก แลมพาร์ดและมูรินโญ่สนทนากันอย่างออกรสและยาวนานบริเวณริมเส้นข้างสนาม โดยกุนซือชาวโปรตุเกส เผยในงานแถลงข่าวหลังจบเกมว่าเขาได้ให้คำแนะนำในฐานะโค้ชเก่าแก่สู่โค้ชคนหนุ่มและอดีตนักเตะของตัวเองว่าเมื่อทีมโดนนำ โค้ชจำเป็นต้องกลายเป็นตัวชูโรงไม่ใช่เวลาที่ทีมกำลังมีสกอร์นำ “พวกเราคุยกันสนุกสนานบริเวณริมเส้นครับ” แลมพาร์ดกล่าว “ผมเข้ากับโชเซ่ได้ดีแล้วเขาก็บอกผมในเรื่องนั้น ผมแสดงความคิดเห็นถึงความจริงที่เขาดูจะคุยกับผู้ตัดสินมากกว่าคุยกับนักเตะตัวเอง มันก็เป็นช่วงเวลาหนึ่งของเรา” “ผมเคารพโชเซ่เป็นอย่างมากโดยไม่สำคัญเลยว่าเราจะคุยอะไรกันที่ข้างสนาม ผมคิดว่าเขาอาจรู้สึกถึงรูปเกมในครึ่งแรกกับแนวทางของมัน แต่เมื่อเกมจบลงทุกอย่างก็ดีเหมือนเดิมซึ่งสิ่งดังกล่าวจะไม่มีทางเปลี่ยนไป”
มืออาชีพ! มูรินโญ่ยอมรับในเกมส์ด่าแรงใส่แลมพาร์ด
โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมคาราบาว คัพ รอบสี่ ที่เอาชนะจุดโทษ เชลซี 5-4 วานนี้ว่าด่าแรงใส่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีมคู่แข่งจริงๆ แต่พอจบแมตช์ก็เลิกแล้วต่อกันเพราะทราบว่ามันคือความตึงเครียดในเกม ดราม่าเกิดนาที 20 หลังจาก ติโม แวร์เนอร์ ยิงให้ ‘สิงห์บลูส์’ ขึ้นนำ 1-0 แล้ว ‘แลมพ์ส’ เหมือนมายืนแอ็กต์ข้างสนามพูดอะไรบางอย่าง ทาง โชเซ่ จึงด่าสวนไปว่า “ตอนสกอร์ตามหลัง 0-3 มึงไม่เห็นมายืนเก็กอยู่ตรงนี้เลยโว้ย” มูรินโญ่ หมายถึงแมตช์ในลีกที่ เชลซี ตามหลัง เวสต์บรอมวิช 0-3 แต่รัวจนตีเสมอ 3-3 เดือดร้อนผู้ตัดสินที่สี่ต้องมาแยกวงก่อนจะบานปลายมากกว่านั้น กระทั่งนาที 83 สเปอร์ส ตีเสมอ 1-1 จาก เอริค ลาเมล่า นำไปสู่การดวลเป้ากระทั่ง ‘ไก่เดือยทอง’ คว้าชัยในที่สุด นั่นทำให้กุนซือวัย…
ความท้าทายของมูรินโย!
โชเซ มูรีนโยกล่าวว่าในตลาดหน้าร้อนนี้ทีมของเขาไม่สามารถที่จะแข่งขันซื้อนักเตะได้เหมือนกับทีมร่วมลีกอย่างเชลซีและแมนยูไนเต็ด ท็อตแนมฮอสเปอร์ได้ใช้เงินไปกว่า100ล้านปอนด์ก่อนจะเกิดปัญหาโรคระบาดcovid-19และมูรินโญ่รู้ดีว่าเขาจะไม่ได้รับเงินก้อนโตในการซื้อขายนักเตะเหมือนก่อนหน้านี้ มูรินโญ่บอกว่าเขามีความสุขที่จะยอมรับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าตราบใดที่เขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในตำแหน่งที่เขารู้สึกว่าจำเป็น “ตอนนี้คุณมีตัวอย่างของสโมสรที่ลงทุนและสร้างการเคลื่อนไหวที่สำคัญในตลาดนักเตะแล้วและเรายังคงมีเก้านัดที่เหลือในฤดูกาลนี้”มูมู่กล่าว “แต่ผมคิดว่าเราจะต้องมีความสมดุลอยู่เสมอซึ่งเป็นสิ่งที่ท็อตแนมทำเป็นปกติ” “ ผมคาดหวังให้เราทำสิ่งสำคัญเล็กน้อยและถ้าเราทำสิ่งสำคัญเล็ก ๆ ของเราและเราปรับปรุงในสองสามตำแหน่งที่เราจำเป็นต้องปรับปรุงในทีม เนื่องจากทีมเราไม่สามารถเสริมนักเตะได้มันจึงเป็นปัญหา “ เห็นได้ชัดสำหรับเราว่ามีตัวเลือกบางตำแหน่งที่ไม่เหมาะกับเรา แต่นั่นเป็นสถานการณ์ปกติ จะเห็นไดชัดว่าช่วงที่ผ่านมามีบางทีมที่เสริมในตำแหน่งที่พวกเขาขาดได้อย่างดีเช่นแมนยูดึงบรูโน่และเชลซีดึงแวเนอร์ แต่ผมรู้ดีว่าเราต้องมีสมาธิกับอีก9นัดที่เหลือเพราะฉะนั้นแล้วผมก็จะทำให้มันดีที่สุดและเราจะพัฒนาทีมของเราในแบบที่เราทำได้