Tag: ไค ฮาแวร์ตซ์

ไค ฮาแวร์ตซ์ แข้งใหม่ เชลซี เปิดใจการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นงานที่ยากกว่าบุนเดสลีกาหลังประเดิมสนามให้ทีมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฮาแวร์ตซ์ เพิ่งย้ายจาก เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัวมากถึง 71 ล้านปอนด์ ก่อนประเดิมสนามด้วยการเป็นตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีก นัดแรกของทีมที่บุกชนะ ไบรท์ตัน 3-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แข้งวัย 21 ปี เปิดใจหลังผ่านนัดแรกกับทีมว่า “การลงเล่นในพรีเมียร์ลีกยากกว่าบุนเดสลีกามาก ผมเห็นได้จากการฝึกซ้อมและในเกมจริงด้วย”  “ถือเป็นเกมที่ยากมาก เพราะผมพักหยุดยาวไปนานและผมเพิ่งกลับมาเพื่อร่วมฝึกซ้อมกับทีมแค่ 5-6 วัน”  “สิ่งที่สำคัญกว่าคือเราชนะ ผมมีความสุขที่ได้เล่นถึง 80 นาที และหวังว่าสัปดาห์หน้าผมจะได้ลงเล่นต่อไป” สำหรับนัดต่อไปของ เชลซี คือโปรแกรมบิ๊กแมตช์ที่จะได้เล่นในบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนนี้

เชลซีได้ออกมายืนยันเบอร์เสื้อนักเตะสำหรับฤดูกาล 2020/21 อย่างเป็นทางการ สำหรับหมายเลขเสื้อแข่งที่น่าสนใจของเชลซีในซีซั่นใหม่นี้ ฮาคิม ซิเยค แข้งป้ายแดงจะสวมหมายเลข 22 ซึ่งว่างลงหลังจากที่คริสเตียน พูลิซิช ย้ายไปใส่หมายเลข 10 ขณะที่หมายเลข 11 มีเจ้าของใหม่เป็นติโม แวร์เนอร์ ขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ นักเตะที่ย้ายร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์จะสวมเบอร์ 29 ส่วนฟิกาโย โทโมรี เปลี่ยนไปใช้เบอร์ 14 ด้านเบน ชิลเวลล์ และธิอาโก้ ซิลวา สองกองหลังคนใหม่ของทีม สวมหมายเลข 21 และ 6 ตามลำดับ

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี กล่าวชื่นชมและยกย่องตัวรุกคนใหม่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ว่าเป็นการเสริมทัพคุณภาพอย่างแท้จริง จากการเล่นที่สารพัดประโยชน์ เชลซี จ่ายเงินมหาศาลราว 70 ล้านปอนด์ซื้อ ฮาแวร์ตซ์ มาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนีถือเป็นตัวรุกที่มีความหลากหลาย สามารถเล่นได้ทั้งกองหน้าตัวเป้า กองหน้าตัวต่ำ หรือจะออกริมเส้นก็ได้ “ไค ด้วยคุณสมบัติของเขา เขามีความยืดหยุ่นในการเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ผมไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของผมเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาที่ได้เห็นเขา (ช่วงซ้อม) ผมคิดว่าเราสามารถใช้งานเขาได้หลากหลาย” “ข้อดีอย่างหนึ่งเมื่อผมคุยกับ ไค คือเขาสบายๆ ไปหมด เขาไม่ใช่พวกที่ว่า “ผมอยากเล่นตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” “เขามีความสุขมากที่ได้ช่วยทีม เขาสามารถสร้างสรรค์คุณภาพให้เราในพื้นที่ต่างๆ มันจึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมาเฉพาะเจาะจงใดๆ” แลมพาร์ด กล่าว

 โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี และบอร์ดบริหารของทีมคือกลุ่มคนที่ต้องการเอา ไค ฮาแวร์ทซ์ แนวรุกชาวเยอรมันมาร่วมทัพให้ได้ภายในปี 2020 ก่อนที่จะสมหวังในที่สุด ไม่ใช่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี แต่อย่างใด โดยที่ อบราโมวิช ถึงขั้นลงมาคุมดีลนี้ด้วยตัวเองเลย ตามรายงานของ ดิ เอ็กซ์เพรส สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี ดิ เอ็กซ์เพรส เผย แลมพาร์ด ไม่ได้เป็นคนกระตือรือร้นที่จะปิดดีลกับ ฮาแวร์ทซ์ ให้ได้เลย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ อบราโมวิช กับคนใหญ่คนโตรายอื่นๆ ของทีมอยากปิดดีลกับ ฮาแวร์ทซ์ ให้ได้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้นั้น เป็นเพราะพวกเขามองว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทำอย่างนั้นหลังจากที่ทีมอื่นๆ ไม่มีสภาพการเงินดีพอที่จะทุ่มเพื่อ ฮาแวร์ทซ์ แข่งกับพวกเขาได้ ภายหลังทีมเหล่านั้นได้รับผลกระทบด้านการเงินจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วน เชลซี ไม่ได้เสริมทัพเลยในฤดูกาล 2019-20 จนทำให้มีเงินให้ใช้มากมายก่ายกอง     ทั้งนี้ เชลซี เคยมีปัญหาเรื่องการเสริมทัพด้วยนักเตะที่ อบราโมวิช อยากได้ทั้งที่ขัดกับความต้องการของคนเป็นกุนซือมาแล้ว โดยที่เด่นที่สุดหนีไม่พ้น อังเดร เชฟเชนโก้…

ไค ฮาแวร์ทซ์ ดาวเตะคนใหม่ล่าสุดของเชลซี ออกมาเผยถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวเลือกที่บอกปัดข้อเสนอของทีมดังๆ อย่างเรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิก เพื่อย้ายมาค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือแฟรงค์ แลมพาร์ด  ความสามารถของดาวเตะชาวเยอรมันในการยิงประตูจากแดนกลางทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับแลมพาร์ดตลอดฤดูกาล 2019/20 อันโดดเด่นกับเลเวอร์คูเซ่นและเขาก็ยอมรับว่า ผู้จัดการทีมคนหนุ่มของเชลซีคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ เชลซี “แน่นอนว่าเขามีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของผมเพราะผมชอบเขาในฐานะนักเตะและเฝ้าดูเขาบ่อยมาก” ฮาแวร์ทซ์กล่าวกับเว็บไซต์ทางการของเชลซี “ผมคิดว่าผมสามารถเรียนรู้จากเขาในฐานะผู้จัดการได้เช่นกัน และผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ถ่อมตัวมาก” “เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและผมแทบรอไม่ไหวที่จะเล่นกับเขาและเรียนรู้จากเขา”

ไค ฮาแวร์ตซ์ แข้งใหม่ป้ายแดงของ เชลซี เผยชอบดู แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซี ตั้งแต่เป็นนักเตะแล้ว หวังได้เรียนรู้กับการร่วมงานกันในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ฮาแวร์ตซ์ เพิ่งย้ายจาก เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม เชลซี ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัวราว 71 ล้านปอนด์ โดยมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ภายหลังการย้ายทีมเรียบร้อย ตัวรุกดีกรีทีมชาติเยอรมันกล่าวเปิดใจกับการได้ร่วมงาน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ว่า “แน่นอนเขามีส่วนอย่างมากในการที่ผมตัดสินใจมาร่วมทีมเพราะผมชอบเขาสมัยเป็นนักเตะอยู่แล้วและดูเขาเล่นบ่อยทีเดียว ผมคิดว่าผมจะได้เรียนรู้จากเขาในฐานะผู้จัดการทีมเช่นกัน” “เขาชอบการเล่นเกมรุกมากๆ และเขารักการทำประตู ผมเองก็ชอบการทำประตูเช่นกัน ดังนั้นผมคิดว่าเขาจะช่วยผมได้มากทีเดียวในตำแหน่งการเล่นของผม รวมถึงหลายสิ่งที่เขาจะช่วยให้ผมพัฒนาขึ้น ผมแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้ร่วมงานกับเขาแล้ว”  ทั้งนี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ต้องกลับไปเข้าแคมป์ทีมชาติเยอรมันต่อเพราะอยู่ระหว่างทำศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก โดยทัพ “อินทรีเหล็ก” ที่นัดล่าสุดเสมอทีมชาติสเปน 1-1 มีคิวนัดต่อไปพบทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้

เชลซี ประกาศคว้าตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางทีมชาติเยอรมันมาจาก เลเวอร์คูเซ่น อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเซ็นสัญญากัน 5 ปี ค่าตัว 71 ล้านปอนด์ กองกลางตัวรุกทีมชาติเยอรมันยิงไป 36 ประตู และทำอีก 25 แอสซิสต์ จาก 118 นัดที่ลงเล่นให้กับสโมสรจากบุนเดสลีกา เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดอันดับสองของประวัติศาสตร์ สิงห์บลูส์ ตามหลัง เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนที่ย้ายมาจาก แอธ. บิลเบา ด้วยค่าตัว 71.6 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2018 ฮาแวร์ตซ์ วัย 21 ปี กลายเป็นแข้งใหม่ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รายที่ 7 ในซัมเมอร์แรกของเขา ตั้งแต่ที่สโมสรพ้นโทษแบนห้ามซื้อนักเตะใหม่ เขากลายเป็นนักเตะใหม่ของ เชลซี ในซัมเมอร์นี้ต่อจากกองหน้าอย่าง ทิโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเย็ค กองกลาง และบรรดากองหลังอย่าง…

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ผู้จัดการทั่วไปทีมชาติเยอรมันพูดถึงการอนุญาต ไค ฮาแวร์ตซ์ ผละจากแคมป์ไปยังลอนดอนเพื่อเปิดตัวกับสโมสร เชลซี ว่าทางนักเตะแจ้งก่อนแล้วอีกทั้งต้นสังกัดก็ทราบเรื่อง คาดว่าดีล 90 ล้านปอนด์คงลุล่วงวันอาทิตย์ ( 6 ก.ย.) ฮาแวร์ตซ์ กำลังจะย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเป็นสมาชิกใหม่แห่ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยหลังจบเกมเนชั่นส์ ลีก ที่เสมอ สเปน 1-1 เมื่อคืนวันศุกร์ ก็เก็บกระเป๋าเตรียมเหินฟ้าจากสตุ๊ตการ์ทมายังกรุงลอนดอน  ล่าสุด เบียร์โฮฟฟ์ ชี้แจงกรณีนี้ว่าไม่ใช่การหนีค่าย แต่ถูกแจ้งล่วงหน้าแล้ว “แน่นอนเราย่อมอยากให้นักเตะมีสมาธิเต็มที่เมื่อรับใช้ทีมชาติเตะปฏิทินฤดูกาลใหม่ แต่ทาง ‘อินทรีเหล็ก’ ก็ตระหนักว่าดีลนี้สำคัญต่อสโมสร เลเวอร์คูเซ่น และตัว ไค เอง ที่ต้องรับผิดชอบเรื่องให้จบเช่นกัน” แถลงการณ์จากเว็บไซต์ทางการ “ในอีกทางหนึ่งมันก็นับเป็นความภาคภูมิใจและต้องจดจำสำหรับวงการฟุตบอลเยอรมัน เมื่อแข้งหนุ่มสัญชาติดอยช์ เป็นที่ต้องการตัวสูงมากระดับนานาชาติ”  “ประสบการณ์ที่นักเตะได้จากการค้าแข้งต่างแดน จะช่วยพวกเขาเติบโตขึ้นทั้งเรื่องฝีเท้าและคุณวุฒิ แน่นอนย่อมเป็นประโยชน์ต่อ ‘ดำ-แดง-ทอง’”  “เรามีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับ รูดี้ โฟลเลอร์ (ผอ.กีฬา เลเวอร์คูเซ่น) เพื่อหาทางออกที่ดีร่วมกัน”   เท่ากับว่าซัมเมอร์ 2020…

เชลซี ใกล้ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางตัวรุกทีมชาติเยอรมนีเต็มทีแล้ว เมื่อมีข่าวรอบใหม่ระบุว่าตกลงค่าตัวกับ เลเวอร์คูเซ่น ได้แล้ว สกายสปอร์ต เยอรมนี รายงานว่า เชลซี ใช้เวลาเจรจากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เรื่องค่าตัวการย้ายทีมของ ฮาแวร์ตซ์ มานานหลายสัปดาห์แล้ว ก่อนได้บทสรุปเรียบร้อยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ค่าตัวเบื้องต้น 80 ล้านยูโร บวกกับโบนัสตามเงื่อนไขที่ตกลงอีก 20 ล้านยูโร ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เชลซี ตกลงค่าตัว ฮาแวร์ตซ์ ได้แล้วที่ตัวเลขจำนวนนี้ แถมเมื่อไม่กี่วันก่อน ยังมีข่าวว่า กองกลางวัย 21 ปี เดินทางมาตรวจร่างกายที่ลอนดอนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่่ผ่านมาแล้วด้วย แต่ สกาย เยอรมนี ยืนยันนักเตะยังไม่มีการตรวจร่างกาย และข้อตกลงกับ เลเวอร์คูเซ่น ก็เพิ่งได้บทสรุปสดๆ ร้อนๆ ทั้งนี้ หาก เชลซี เซ็นสัญญากับ ฮาแวร์ตซ์ เรียบร้อย ก็จะกลายเป็นการเสริมทัพรายที่ 7 ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด…

ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี ผ่านการตรวจร่างกายกับ เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้าการเซ็นสัญญาที่มีค่าตัวสูงถึง 100 ล้านยูโร บิลด์ สื่อดังเยอรมนี รายงานว่า ฮาแวร์ตซ์ เดินทางไปลอนดอน และเข้ารับการตรวจร่างกายกับ เชลซี แบบเงียบๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนประสบความสำเร็จในทุกขั้นตอน จากนั้นถึงบินกลับไปเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมชาติเยอรมนีในวันจันทร์ แม้เวลานี้สื่อหลายสำนักยังระบุข้อเสนอที่ เลเวอร์คูเซ่น ตอบรับ เชลซี ไม่ตรงกัน แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการจ่ายเบื้องต้น 80 ล้านยูโร บวกกับโบนัสตามเงื่อนไขที่ตกลงกันอีก 20 ล้านยูโร หากเป็นไปตามแผนการที่วางเอาไว้ ฮาแวร์ตซ์ จะเดินทางมาเซ็นสัญญาและเปิดตัวกับ เชลซี หลังเสร็จสิ้นภาระกิจกับทีมชาติเยอรมนีในสัปดาห์หน้า และจะกลายเป็นนักเตะใหม่คนที่ 6 ในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต่อจาก ฮาคิม ซิเยค, ตีโม แวร์เนอร์, เบน ชิลเวลล์, ติอาโก้ ซิลวา และ มาลัง ซาร์