Tag: แฟร็งค์ แลมพาร์ด

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี ได้ทีตามล้างตามเช็ดนักเลงคีย์บอร์ดที่จองเวรด่ากองกลาง เมสัน เมาท์ ว่าทีผลงานเกมชปล.ที่ชนะ แรนส์ 2-1 วานนี้ดันหายหัวกันหมด ไม่เห็นมาโชว์ภูมิตามโซเชี่ยลมีเดียเหมือนทุกที เมาท์ โดนชาวเน็ตวิจารณ์ว่าเป็นเด็กเส้นของ แลมพาร์ด ที่ติดสอยห้อยตามกันมาตั้งแต่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ บางรายสร้างเฟก นิวส์ อีกว่านามทีมชาติอังกฤษ บอสวัย 42 ปีก็เป็นคนฝากฝังกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต เจ้านายใหญ่สิงโตคำรามว่าช่วยปั้นบ่อยๆ  กระทั่งเกมที่ รัวซง ปาร์ก เมื่อคืนวันอังคาร มิดฟิลด์เลือดผู้ดีตัดบอลได้แดนกลาง ก่อนที่จะโชว์วิสัยทัศน์วางบอลยาวให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย พาบอลเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับนายด่าน อัลเฟร็ด โกมิส และแปด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย ปรากฏว่าพวกแมงเมาท์ไซเบอร์ไม่โผล่สักราย เป็นเหตุให้ ‘แลมพ์ส’ ต้องประกาศคนหาย ข้องใจพวกกูรูหน้าคีย์บอร์ดไปไหมหมด?  “ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เมสัน แต่ไม่สนิทอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เอาเป็นว่าเด็กมันจะทราบหากเมื่อไหร่ที่เขาอยากได้คำแนะนำ ตัวผมจะอยู่ตรงไหน” แลมพาร์ด กล่าวกับ ‘บีที สปอร์ต’ “เกี่ยวกับเรื่องที่ เมสัน เผชิญโดนทัวร์ลง นินทาเรื่อยเปื่อย พวกนี้พิมพ์ๆไว้แล้วมันก็ไป”  “ส่วนตัวโชคดีที่ได้รู้จักเขาถ่องแท้ระหว่างร่วมงานที่ ดาร์บี้ มันเป็นฤดูกาลซึ่งหมอนั่นแจ้งเกิดระดับแชมเปี้ยนชิพ โดดเด้งมากกับวิธีการเล่นของเจ้าตัวเมื่อครองบอล”  “นี่ไม่จะออกมาแซะนักเลงคีย์บอร์ด แต่ก็อย่างที่เห็นผลงานเขามีส่วนร่วมแบบขึ้นสุดลงสุดตลอด จากนี้คงได้เห็นประตูที่มากขึ้น แอสซิสต์ที่มากขึ้นจากน้องมัน”  นอกจาก แลมพาร์ด แล้วทาง โจ โคล โค้ชทีมเยาชน เชลซี ที่มาร่วมวิเคราะห์ทาง บีที สปอร์ต ก็ร่วมยืนยันว่า เมสัน มีของ พวกคนวิจารณ์คือดูบอลไม่เป็น

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สุดแฮปปี้พาทีมเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังพิชิต แรนส์ 2-1 พร้อมยกย่อง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ฮีโร่ที่ทำประตูชัย “สิงห์บลูส์” กลายเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้หลังบุกชนะ แรนส์ 2-1 จากประตูชัยในท้ายเกมของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์  “ผมมีความสุขมากๆ กับการผ่านเข้ารอบด้วยเกมที่เหลืออีก 2 นัด มันเป็นเกมที่ยากเอาเรื่อง พวกเขาเป็นทีมที่ดีมาก ฟอร์มล่าสุดไม่ได้สะท้อนหรอกว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีอย่างไร มันเป็นชัยชนะที่หินทีเดียว” แลมพาร์ด ได้กล่าวถึง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ผู้โหม่งทำประตูชัย 2-1 ว่า “เขาทำในสิ่งที่ทำในคืนนี้ เขายอดเยี่ยมมาก มันไม่ใช่เพียงประตูที่ยิงได้ตอนเขาลงเล่น แต่เขาพักบอลได้ เขาได้ลงเล่นเพราะมีเกมที่ลงสนามเยอะ” “คุณเห็นกันแล้วถึงปฏิกิริยาของเขาหลังยิงได้ มันไม่ใช่เพียงเพราะว่าเป็นประตูชัยท้ายเกม แต่แสดงให้เห็นถึงสิ่งเขาทำในทุกวันและความสำคัญที่เขามีต่อทีม”

เชส ฟาเบรกาส อดีตกองกลาง เชลซี มั่นใจว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีม คนปัจจุบันสามาถปั้นขุมกำลังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ได้ยาวๆถึงบั้นปลายเพราะอาวุธครบมือ ‘สิงห์บลูส์’ อั้นเสริมทัพเมื่อซีซั่นแรกที่ แลมพาร์ด คุมทีม แต่บอสชาวอังกฤษยังสามารถนำรัฐนาวาจบอันดับสี่ตารางลีกได้โควตา ชปล. พอมาฤดูกาลปัจจุบันสโมสรจึงสนับสนุนเต็มที่อัดฉีดกว่า 200 ล้านปอนด์เสริมแกร่งทุกตำแหน่งจนปัจจุบันรั้งอันดับสามตาราง ห่างจ่าฝูงเพียงสองแต้ม  นั่นทำให้ เชส ซึ่งมาร่วมงาน เชลซี เมื่อปี 2014 แม้สวนทางกับ ‘แลมพ์ส’ พอดี แต่ยังเชื่อว่าศิษย์พี่ร่วมสถาบันทั้งเก่ง ทั้งมีของหมกอยู่รอบเอว ไม่ว่าปืนปากกา, มีดหัวตัด หรือสนับมือ  “แน่นอนผมมองว่า เชลซี คือหนึ่งทีมลุ้นแชมป์ ด้วยจำนวนแข้งคุณภาพและตัวเก๋าที่เสริมมาตอนซัมเมอร์ จะมองข้ามพวกเขาไม่ได้” กองกลางที่ปัจจุบันเล่นให้ โมนาโก กล่าวกับ ‘สปอร์ตส์ อิลลัสเตร็ด’ “เวลาพวกเขาเขี้ยวลากดินขึ้น ชนะเกมได้ง่ายดายกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน”  ราคาต่อ-รองแชมป์ลีกจาก วิลเลี่ยม ฮิลล์ ก็ยกให้ เชลซี เป็นเต็งสามรองจากแค่ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เท่านั้น 

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี กล่าวในงานแถลงความพร้อมก่อนแมตช์เดย์สี่ ชปล.ที่จะพบ แรนส์ อังคารนี้ว่าหากมีโอกาสเก็บชัยเพื่อเข้ารอบต้องรีบทำเพราะเดือนธ.ค.คิวแข่งชุก หากต้องห่วงหน้าพะวงหลังอาจเละทั้งหมด สถานการณ์กลุ่ม อี ของ ‘สิงห์บลูส์’ พวกเขามี 7 คะแนนเท่ากับ เซบีย่า ครองตั๋วเข้ารอบเวลานี้ ดังนั้นหากนัดกันเอาชนะ แรนส์ กับ คลาสโนดาร์ ที่ต่างมีหนึ่งแต้มตามลำดับ ก็จะทำให้สองผู้นำการันตีเป็น 16 ทีมสุดท้าย  บวกกับบอสวัย 42 ปีมองข้างช็อตถึงคิวเตะมากถึง 8 นัดเดือนธันวาคมหลีกเลี่ยงการโรเตชั่นไม่ได้ ดังนั้นคงเป็นการดีหากรีบเช็คบิลชปล.โดยไม่ต้องยืดเยื้อถึงแมตช์เดย์ห้า  “ผมมองไปยังกำหนดแข่งขันแล้วเห็นว่ามันสาหัสมาก” กุนซือชาวผู้ดีเปิดใจ  “เราต้องเล่นกับ อาร์เซน่อล ในบ็อกซิ่งเดย์ แล้วสอง-สามวันจากนั้นก็เตะอีก ดังนั้นแมตช์พบ แรนส์ จำเป็นต้องชนะให้ได้เพื่อผ่านเข้ารอบ กรณีทำสำเร็จค่อยสามารถพักผู้เล่นแต่ทั้งนี้ยังหวังตำแหน่งแชมป์กลุ่ม” “เชื่อมือน้องๆกลุ่มนี้แม้หมุนเวียนใช้งานแต่มาตรฐานไม่ตก” พร้อมกันนั้น แลมพาร์ด ยังชื่นชมทุกฝ่ายที่แก้ปัญหาเกมรับรั่วจนดีขึ้นทันตา  “เรามีโค้ชดูแลส่วนนั้น ทำการประเมินตำแหน่งสำคัญๆที่ทำเสียประตู พบว่าบางครั้งมาจากความผิดพลาดเองอย่างเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน หรือ เวสต์บรอมวิช บางครั้งมาจากความได้เปรียบเสียเปรียบเล็กๆน้อยๆ แต่เราก็ให้ความสำคัญภาพรวมทีมก่อน จากนั้นค่อยติวรายบุคคล เพราะงานส่วนรวมมาเป็นอันดับหนึ่ง”แลมพาร์ด ส่งท้าย

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซีออกมาย้ำอีกครั้งว่า โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์ ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม กองหน้าชาวฝรั่งเศสลงสนามให้ สิงโตน้ำเงินคราม อย่างจำกัดในฤดูกาลนี้ หลังจากทีมมีกองหน้าทั้ง ทิโม แวร์เนอร์ กับ แทมมี่ อบราฮัม ที่ดูเหมือนได้รับความไว้วางใจและถูกส่งลงมากกว่า กระนั้นนายใหญ่แห่งรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ ยืนยันในการแถลงข่าวก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ แรนส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ชีรูด์ ยังคงเป็นคนสำคัญของสโมสรแม้มีข่าวย้ายทีมในเดือนกมราคมนี้ “โอลิ เป็นนักเตะคนสำคัญในทีมของเรา เขาต้องการลงเล่นมากกว่าเดิมอยู่เสมอ ผมต้องการให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไป ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา และถ้าเขารู้สึกแตกต่างออกไป เราจะมาคุยกันอีกที” สำหรับ ชีรูด์ ต้องการลงสนามอย่างต่อเนื่องเพราะเขามีเป้าหมายในการติดทีมชาติฝรั่งเศสไปเตะ ยูโร 2020 กลางปีหน้า และที่ผ่านมาตำแหน่งของเขาสั่นคลอนเพราะ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล รวมไปถึง มาร์คุส ตูราม ทำผลงานได้เข้ามา ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ กุนซือทีมตราไก่

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือของ เชลซี หวังว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ จะมีส่วนร่วมกับเกมที่ทีมจะไปเยือน แรนส์ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันอังคารนี้ แข้งวัย 21 ปีถูกตรวจพบเชื้อโควิดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนซึ่งพลาดช่วยทีมเกมกับ แรนส์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด รวมถึงทีมชาติเยอรมัน โดยเกมล่าสุดที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่มีชื่อในทีม โดยทาง แลมพาร์ด หวังว่านักเตะจะพร้อมช่วยทีมในเกมยุโรป “ผมหวังว่าเขาจะพร้อม เขาซ้อมด้วยตัวเองมา 2-3 วันและเขาดูดีทีเดียว” แลมพาร์ด กล่าวก่อนเตรียมทีมทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์กับ แรนส์ “ไค เป็นเด็กที่มีสภาพร่างกายที่ฟิตตามธรรมชาติ ผมหวังว่าจะมีเขาเดินทางไปกับทีมด้วยในเกมกับ แรนส์ วันอังคาร, บางทีอาจจะได้ลงเล่นในบางช่วง ผมไม่แน่ใจว่ามาก-น้อยแค่ไหน เพราะเขากักตัวมา 2 สัปดาห์ แต่เขาดูดีทีเดียว”

แลมพาร์ดให้สัมภาษณ์หลังจบเกมระหว่างเชลซีกับนิวคาซเซิ่ล ที่จบได้ด้วยการชนะของเชลซีที่สกอร์ 0-2 พร้อมยอมรับว่าเชลซีในตอนนี้อาจจะไม่เพียงพอต่อการเป็นแชมป์ “หลังผ่านไป 8 หรือ 9 นัด มันคงเป็นเรื่องง่ายมากในการที่คุณจะรู้สึกตื่นเต้นจากการอยู่ในตำแหน่งหัวตาราง แต่ผมคงไม่ยิ้มมากไปให้กับตารางคะแนนหรอก” แลมพาร์ดกล่าว “มันเป็นเรื่องเยี่ยมสำหรับการคว้า 3 คะแนนเมื่อคุณลงแข่งขันเป็นเกมแรกในสุดสัปดาห์ แต่ผมรู้ว่าพอตอนจบเดี๋ยวตารางคะแนนก็ต้องเปลี่ยนแปลง เราเป็นห่วงได้แค่ตัวเอง ผลงานในระยะหลังหมายความว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่การทำแบบนั้นอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลานานคือก้าวต่อไปสำหรับพวกเราในตอนนี้” “เป้าหมายแรกของเราในปีนี้คือการลดช่องว่างกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูล นี่คือสองทีมที่โชว์ความสม่ำเสมอในระดับที่แตกต่าง และกอบโกยแต้มได้ทั้งซีซั่น” เขาอธิบาย “พวกเรากำลังพัฒนาแต่เราก็ต้องไม่หลงระเริงกับตัวเองในช่วงต้น เราต้องพยายามทำผลงานให้สม่ำเสมอในระดับนั้น แต่ผมแฮปปี้กับตำแหน่งของพวกเราในตอนนี้ครับ”

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ออกมาชื่นชมลูกทีมที่รับมือกับความท้าทายได้ดีในเกมที่บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 จนขึ้นไปรั้งจ่าฝูงเป็นการชั่วคราว เกมที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค สิงห์บลูส์ ขึ้นนำเร็วจากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองของ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ กองหลัง นิวคาสเซิ่ล ตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรก ในครึ่งหลัง ทีมเยือนก็มาย้ำชัยจากลูกยิงของ แทมมี่ อบราฮัม ซึ่งทำให้จบเกมคู่เร็ว เชลซี ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงก่อนชั่วคราว “เราไม่สามารถทำทุกอย่างในแบบที่เราต้องการได้ แต่เราก็เล่นเกมเยือนด้วยฟอร์มระดับมืออาชีพ” แลมพาร์ด กล่าว “ช่วง 20 นาทีแรก เราทำได้ยอดเยี่ยม เราคอนโทรล และครองบอลได้แบบหมดจด” “พวกเขาออกมาในครึ่งหลัง และผมรู้สึกตลอดว่าความอันตรายที่แท้จริงจากเรานั้นคือเกมโต้กลับ” “คุณได้เห็นมันจาก ทิโม (แวร์เนอร์) ที่ตัดบอล และจากนั้นก็สร้างจังหวะให้ แทมมี่ (อบราฮัม) ทำประตู” “มันง่ายมากที่จะเล่นผ่านบอลไปมาแบบปลอดภัย แต่เราก็ต้องไม่หยุดวิ่ง และพยายามที่จะเจาะเข้าไปให้ได้” “เราเล่นกันได้ดี ผลการแข่งขันคือกุญแจสำคัญเพราะพรีเมียร์ลีกนั้นยาก และไม่เคยปราณีใคร ผมคิดว่าเด็กๆ รับมือได้ดีกับความท้าทายในวันนี้…

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซี ได้กล่าวชื่นชมพัฒนาการและศักยภาพของ บิลลี่ กิลมอร์ ดาวรุ่งชาวสก็อตตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำว่า บิลลี่ ‘จะเป็นนักเตะคนสำคัญให้กับทีมไปอีกยาวนาน’ กิลมอร์ ไม่ได้ลงสนามให้กับเชลซีนับตั้งแต่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าด้านขวาจากแมตช์ที่พวกเราเอาชนะคริสตัล พาเลซ 3-2 ช่วงหลังฟุตบอลรีสตาร์ตตอนซัมเมอร์ เขาปรากฎตัวเป็นเวลาสั้น ๆ ให้กับทีมชาติสก็อตแลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต้องจบลงเพราะโดนใบแดงที่แปลกประหลาด หลังจากนั้น กิลมอร์ ได้ลงเล่นอีกหนึ่งชั่วโมงให้กับทีมเยาวชนของเราในรายการอีเอฟแอล โทรฟี่ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แม้ความฟิตจะยังไม่กลับมาเต็มที่ แต่แลมพาร์ดก็พอใจที่ได้เห็น กิลมอร์ ลงเล่นในสนามอีกครั้ง “เขากลับมาฟิตอีกครั้ง เขาลงเล่นเมื่อคืนวันพุธในรายการอีเอฟแอล โทรฟี่ ก็ได้เวลาลงสนามที่ดีและผมได้ยินมาว่าเขาทำผลงานได้ดีมาก ดังนั้นพวกเราจึงแฮปปี้กับเขาซึ่งเขาจะได้ลงเล่นอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ให้กับทีม U-23 “แลมพาร์ดกล่าว “เขาเริ่มได้เวลาลงสนามแต่ยังไม่ฟิต มันคงเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ละเพราะปกติเขาเป็นเด็กที่มีร่างกายฟิตมากอยู่แล้ว” “เขาแสดงผลงานที่ดีในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อปีที่แล้ว ผมมั่นใจมากในการส่ง บิลลี่ ลงสนามในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของฤดูกาล จากการฝึกซ้อมและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”

แฟร้ง แลมพาร์ด ผจก.ทีม เชลซี กล่าวในการแถลงความพร้อมก่อนเยือน นิวคาสเซิ่ล ( 21 พ.ย.) ว่าอยากให้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โหวตพิจารณาเปลี่ยนจำนวนสำรองใช้งานจาก 3 เป็นห้าคนเหมือนที่อื่นในโลกเพื่อเซฟนักเตะ ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นการแข่งขันรายการเมเจอร์แห่งเดียวของโลกที่อนุญาตเปลี่ยนตัวสำรองได้สามคน ผิดกับที่อื่นเปลี่ยนห้าคนจากโอกาสใช้ 3 ครั้ง เหตุเพราะสมาชิกทีมเล็กของลีกมองว่ายังรักษาความสูสีกับพวกมหาอำนาจได้  อย่างไรก็ตามทิศทางของเรื่องนี้อาจต้องหารือใหม่เพราะแม้แต่ ลีกฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (อีแอฟแอล) ซึ่งดูแลแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ, ลีก วัน และ ลีก ทู ก็ปรับมาให้เปลี่ยนสำรองได้ห้าคนแล้ว ดังนั้น แลมพาร์ด เชื่อว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็อาจเปลี่ยนท่าที “คิดว่ามันเป็นบางอย่างที่พวกเราต้องหาคำตอบร่วมกันกับทุกสโมสร” บอสวัย 42 ปีออกความเห็น  “ก็ทราบว่าเราได้ทำการโหวตในช่วงต้นฤดูกาล แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยในแง่ของสภาพแวดล้อมด้านความเป็นมืออาชีพนับตั้งแต่ที่พวกเรามีตัวสำรอง 5 คนหลังจากฟุตบอลกลับมาแข่งขัน อันที่จริงแล้วมีบางอย่างที่มันกดดันขึ้น และโปรแกรมเตะก็หนักขึ้นมา แต่เราดันกลับไปใช้ตัวสำรองได้ 3 คน”  “สำหรับเหตุผลที่ผจก.ทีมบางท่านไม่ได้ใช้โควต้าตัวสำรองครบ 3 คนมากนักในการแข่งขัน หากมีการถกเถียงเรื่องนี้ มุมมองผมคิดว่าอาจเป็นเพราะว่าคุณมีนักเตะ 10 คนที่คุณกังวลว่าจะออกอาการเหนื่อยล้าในช่วงท้ายเกม” “ การเปลี่ยนตัวสำรองครบ 3 คนตั้งแต่นาทีที่ 70 ทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะหลังจากนั้นอาจมีนักเตะได้รับอาการบาดเจ็บ” “แต่ความกังวลของผมคือสวัสดิภาพของนักเตะโดยเฉพาะพวกที่ต้องเล่นในยุโรป พวกเขาต้องลงแข่งขันทุก 3 หรือ 4 วันสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เสี่ยงบาดเจ็บเช่นกัน”  กลุ่มหกมหาอำนาจคือแกนนำให้โหวตส่งสำรองห้าคน แต่ทีมไซส์เล็กอย่าง เบิร์นลี่ย์ หรือ เชฟฯ ยูไนเต็ด ยืนกรานขวางเพราะตัวเลือกจำกัด