Tag: แฟร็งค์ แลมพาร์ด

แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดเผยผ่านzoomว่าเขาจะไม่สามารถใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ โควาซิช ในเกมบุกเยือนคริสตัลพาเลซ คืนวันพรุ่งนี้ โดยแลมพาร์ดได้พูดถึงความเป็นไปได้ที่ จอร์จินโญ่ จะได้ลงเล่นตัวจริงนับตั้งแต่ฟุตบอลกลับมาแข่งขันอีกครั้ง “ก็องเต้ จะไม่มีชื่อในทีม เขาเจ็บแฮมสตริง” แลมพาร์ด กล่าว “เป็นอาการบาดเจ็บแค่เล็กน้อย เราหวังว่าเขาจะต้องพักสัก 1 สัปดาห์ เราคงโชคดีมากที่จะมีเขาลงเล่นในเกมกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด” “โควาซิช ลงซ้อมกับพวกเราในวันนี้ เขายังไม่พร้อมที่จะลงสนามแต่หวังว่าจะเล่นได้ในเกมถัดไป โทโมรีก็ยังไม่พร้อม ตอนซ้อมเขาดันเจ็บซ้ำ ก็หวังว่าสัปดาห์หน้าจะกลับมาได้”

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ระบุ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์จอมขยัน เจ็บแฮมสตริงระหว่างเกมที่เอาชนะ วัตฟอร์ด 3-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมคอนเฟิร์ม จอร์จินโญ่ ยังอยู่ในแผนการทำทีมของตน ทั้งนี้ ก็องเต้ ได้รับบาดเจ็บก่อนถูกเปลี่้ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 78 ขณะที่ จอร์จินโญ่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสนามแทน และยังไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว นับตั้งแต่สตาร์ทซีซั่น แต่ถึงอย่างนั้น “แลมพาร์ด” ก็ออกมาคอนเฟิร์มว่า อดีตแข้ง นาโปลี ยังคงอยู่ในแผนการทำทีมของเขา “จอร์จินโญ่ ยังอยู่ในแผนของผม” แลมพาร์ด กล่าว  “ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เขามีปัญหาบาดเจ็บที่แฮมสตริง ซึ่งเราจะทำการสแกนดูอาการของเขาในวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) เราหวังว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะไม่รุนแรง แต่ผมคิดว่า มันอาจจะเป็นปัญหาสำหรับเราในเกมเจอกับ พาเลซ วันอังคารนี้”

มิเชล บัลลัค อดีตแข้งทีมชาติเยอรมัน ได้ออกมาหนุนหลังรุ่นน้องร่วมชาติ พร้อมเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว วันที่ 5 ก.ค.63 ติโม แวร์เนอร์ แม้จะตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล มาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเชลซี ที่ปาดหน้าปิดดีลไปอย่างสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 53 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญาระยะยาว 5 ปี “ถ้าลิเวอร์พูลคือทางเลือกสำหรับเขาจริงๆ เขาก็คงตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้ว และมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ได้” บัลลัค เผยผ่านไอ นิวส์เปเปอร์ “แวเนอร์ จะคาดหวังได้แค่ไหน กับการเข้ามาเป็นหนึ่งใน 3 ประสานแดนหน้า และจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในทุกๆ สัปดาห์ แทนที่ ซาลาห์, เฟอร์มิโน และ มาเน ได้เหรอ” “ในขณะที่เชลซีกำลังสร้างทีมใหม่ ซึ่งเป็นทีมพลังหนุ่มและโค้ชอายุน้อย มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในของโปรเจกต์นี้ การได้เป็นกองหน้าตัวหลักในสโมสรที่ใหญ่อย่างเชลซี มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา เพราะจะสามารถมีส่วนร่วมกับทีมได้มากกว่าการอยู่กับลิเวอร์พูล”

แฟรงค์ แลมพาร์ด พอใจที่ได้เห็นทีมของเขา เก็บ 3 คะแนนสำคัญภายใต้ความกดดันมหาศาล เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่มวัตฟอร์ดไป 3-0 แม้จะรู้ว่าทีมจำเป็นต้องเก็บชัยชนะในการกลับไปทวงพื้นที่ท็อปโฟร์หลังจากบรรดาทีมลุ้นโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ตบเท้าเก็บชัยชนะในการเล่นก่อนหน้านั้นไปแล้ว “ผมพอใจกับผลงานของทีม” แลมพาร์ดกล่าว “มันเป็นผลงานที่เยี่ยมมาก ๆ เราเล่นเกมรับได้ดี เรารู้ว่าเราจะต้องเจอกับบอลยาว, เรารู้ว่าลูกตั้งเตะอาจเป็นปัญหา แต่พวกเรารับมือกันได้ดี” “ผมคิดว่าทุกเกมหลังจากนี้เราจะต้องเจอกับความกดดัน การแข่งขันกับเวสต์ แฮมก็มีความกดดันเพราะเรารู้ว่าเรามีโอกาสขยับไปรั้งอันดับ 3 มันเป็นความกดดันในลักษณะที่แตกต่างออกไปแต่ก็เป็นความกดดันอยู่ดี เราต้องรู้วิธีที่จะมีสมาธิกับการแข่งขันและหน้าที่ในมือ เราไม่สามารถไปนั่งพะวงกับสิ่งที่ทีมอื่นทำกันในเวลานี้มากเกินไปและเราก็ทำได้ดี” “ไม่มีใครที่ทำอะไรเล่น ๆ ความคิดของพวกเราถือว่าดีมาก เราเริ่มต้นได้อย่างสดใสแล้วก็สานงานกันต่อ นักเตะเก็บรายละเอียดยิบย่อยในการแข่งขันทั้งเกมรุกและเกมรับได้อย่างเหมาะสม มันทำให้ผมพอใจมาก”

มาร์กอส อลอนโซ่ แบ็คซ้ายทีมเชลซี โดนวิจารณ์เรื่องผลงานในนัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแฟร็งค์ แลมพาร์ดก็ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับบทบาทของนักเตะรายนี้ “พวกเขามีความรับผิดชอบที่ต้องทำหน้าที่ทั้งเล่นเกมรุกและเกมรับ และมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เราพยายามเล่นฟุตบอลและคิดในเชิงการพัฒนา แต่แน่นอนว่าเราไม่มีความคิดที่อยากจะเสียประตูหรอกนะ การวิ่งตามลงมาถือเป็นส่วนที่สำคัญในฟุตบอล และนักเตะก็ต้องทำแบบนั้นไม่ว่าจะเป็นนาทีแรกหรือนาทีที่ 90 ของการแข่งขัน”แลมพาร์ดกล่าว “ผมไม่คิดว่ามันยุติธรรมหากเราจะมอง อลอนโซ่ จากเหตุการณ์นั้นเหตุการณ์นั้นแค่เหตุการณ์เดียว เขาสามารถวิ่งตามลงมาได้ และเราก็สามารถทำเรื่องนั้นให้ดีขึ้นกันเป็นทีม แต่มันควรจะเป็นบางอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่สคัญสำหรับทีม คุณต้องวิ่งลงมาช่วยเกมรับเท่ากับที่คุณรุดเติมเกมไปข้างหน้า คุณต้องมีความกระหายที่จะวิ่งเพื่อช่วยทีม” “ผมไม่สามารถบ่นอะไรเกี่ยวกับทีมในเรื่องนั้นได้ในปีนี้ เพราะหลัก ๆ แล้ว เรามีความกระหายที่จะบีบพื้นที่เวลาไม่มีบอลได้ดีมาก ๆ”

แฟร็งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซี ถูกถามถึงมุมมองเกี่ยวกับVAR และความคิดของเขาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยตัดสิน “ผมไม่คิดว่ามันควรโดนยกเลิก ฤดูกาลนี้มีหลายเหตุการณ์มาก มีทั้งเวลาที่คุณได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ เวลาที่ผมได้ยินผู้จัดการทีมคนอื่นบ่นเรื่องพวกนี้ ผมเข้าใจเพราะว่ามันยากที่จะยอมรับเวลามีการตัดสินแบบนั้นเกิดขึ้น”แลมพาร์ดกล่าว “และผมก็เห็นใจผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ที่ดูแล VAR ในกรณีนี้ด้วย เพราะว่ามีกฎที่ถูกวางมาแล้ว นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เราควรใช้คอมมอนเซนส์ “ “พอจบฤดูกาลเราต้องมานั่งทบทวนกันให้ดี VAR ช่วยปรับปรุงพวกเราในบางแนวทาง แต่ก็มีวิธีที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น ผมคิดว่าพอจบฤดูกาลแล้วทุกคนต้องมานั่งคุยกัน – ผู้ตัดสิน, ผู้จัดการทีม, นักเตะ, คนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลที่รักกีฬานี้ สามารถเสนอมุมมองและทำให้มันเข้าใกล้กับจุดที่เราต้องการให้มันไปถึง”

หลังเชลซีบุกไปเยือนแพ้เวสต์แฮม แฟร็งค์ แลมพาร์ดได้ออกมายืนยันเหตุผลที่แพ้และกำลังเตรียมแผนการในอีก6นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ “พวกเราสร้างความผิดพลาดในจังหวะที่เสียประตู ไม่ใช่เฉพาะกองหลังหรอก” แลมพาร์ดกล่าว “เรายังเหลือการแข่งขันรออยู่อีก 6 นัด ผลการแข่งขันนัดนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเพราะหากคุณลงเล่นในพรีเมียร์ ลีกแล้วสร้างความผิดพลาด หากคุณครองบอลแต่คุณทำได้ไม่ดีพอ เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้” “มันเป็นบางอย่างที่พวกเรารู้อยู่แล้วและเราก็ต้องยอมรับว่ามันจบลงไปแล้ว ต้องก้าวเดินกันต่อไปยังการแข่งขันอีก 6 นัดที่เหลือ” “เรามีโอกาสที่จะปิดช่องว่างหรือทำคะแนนแซงหน้าทีมอื่น” “เรายังต้องทำงานหนักกันอีกเยอะเพื่อไปให้ถึงจุดที่เราต้องการ และมันคือเหตุผลที่พวกเราหลายทีมไล่ตามหลังลิเวอร์พูลกับแมนฯ ซิตี้ เพราะว่าความสม่ำเสมอที่พวกเขาพัฒนากันมาตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำแต่มันก็น่าผิดหวัง” “หากเราอยู่ในตำแหน่งนั้น มันคือวิธีการว่าคุณจะสู้กลับมาอย่างไร จะเดินต่อไปอย่างไร เรามีเกมกับวัตฟอร์ดรออยู่ในวันเสาร์นี้ เราต้องมุ่งมั่นกันต่อ เราต้องตระหนักถึงตำแหน่งของตัวเองในแง่ของการต่อสู้เพื่อพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก”

ผ่านการแข่งขันไปแล้ว 3 นัด จากกลับมาเตะอีกครั้งหลังเกิดระบาดโควิด-19 แลมพาร์ด ได้พูดถึงผลงานของทีม “ผมมีความสุขในการเก็บชัยชนะและองค์การเล่นเกมที่เราลงเล่นโดยเฉพาะในสองนัดแรก เราต้องเฝ้าทำงานในลักษณะเดียวกัน เราต้องมุ่งมั่นในทุก ๆ ตำแหน่งของการเล่นโดยเฉพาะด้านเกมรับและวินัยในการทำงาน” “มันเป็นการผสมระหว่างการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ และช่วงปรีซีซั่นซึ่งมีระยะเวลาน้อยมาก นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ผมรู้จากการที่เคยเป็นนักเตะด้วยตัวเองว่าช่วง 1-2 เกมแรกของปรีซีซั่น คุณจะเริ่มรู้สึกจับทางได้ ความเฉียบคมอาจจะยังไม่มีและบางครั้งนักเตะก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนนั้นของการแข่งขัน” “เราต้องมุ่งมั่นกับเรื่องในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เรามีสัปดาห์ที่ดีแต่ยังต้องทำงานกันอีกเยอะ”

การให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวก่อนเกมส์การแข่งขัน ลอนดอน ดาร์บี้กับเวสต์ แฮมคืนนี้ แลมพาร์ด เผยว่าการเตรียมพร้อมสำหรับนักเตะใหม่ทั้งสองรายคือ ตีมอร์ แวเนอร์ และ ฮาคิม ซิเย็ค การเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า เพราะพวกเขาจะไม่สามารถมีส่วนร่วมจนกว่าซีซั่น 2019/20 จะจบลง เป้าหมายคือการทำให้ทั้งคู่มีความฟิตเมื่อสามารถมีส่วนร่วมกับทีมในสนาม ซึ่ง แลมพาร์ด บรรยายแผนการใดังกล่าว “ผมกำลังจัดทำแผนอยู่เลยครับ” เขาเปิดเผยกับนักข่าวผ่านวิดีโอคอลล์ทาง Zoom “พวกเขาทั้งคู่อยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันด้วยความจริงที่ว่า ฮาคิม ไม่ได้ลงสนามมาอย่างยาวนานเพราะสถานการณ์ของลีกดัตช์ (ถูกตัดจบและประกาศเป็นโมฆะตั้งแต่เดือนเมษายน) และแน่นอนสำหรับ แวเนอร์ ลีกเพิ่งจบไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา” “เราจะจัดทำแผนให้พวกเขาซึ่งจะมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ขณะเดียวกันเดี๋ยวผมจะตัดสินใจว่าสนามซ้อมของเราจะเป็นอย่างไรทั้งในแง่ของการผสมผสานเข้ากับขุมกำลัง หรืออาจจะเป็นการซ้อมที่เน้นเรื่องสภาพร่างกายในช่วงเวลาสั้น ๆ”

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ออกมายอมรับตามตรงว่าดีใจที่ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึก เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จทั้ง ๆ ที่นักเตะโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานค่อนข้างมาก “ก่อนอื่นผมต้องบอกว่ามีความสุขมากที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ เพราะข้อเท็จจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ วันนี้พวกเราเล่นกันไม่ได้ดีสักเท่าไหร่นัก” แลมพ์กล่าว “ผลงานของทุกคนต่ำกว่ามาตรฐานชัดเจน แต่ผมก็ไม่สามารถตำหนิลูกทีมคนไหนได้เลยจริง ๆ เพราะสุดท้ายแล้วพวกเราเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี “ “สิ่งสำคัญคือ เด็ก ๆ จะต้องเก็บเอาทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับไปเป็นบทเรียน โดยเฉพาะเรื่องการต่อสู้เพื่อคว้าชัยชนะในวันที่เล่นกันไม่ดี มันจะทำให้พวกขึ้นแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้นจนมีลุ้นแชมป์บอลถ้วยและตั๋วลุยศึก UCL ไปพร้อม ๆ กัน”