อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตผู้จัดการทีม เชลซี ชี้ว่าตนเองสามารถพาทีมครองความยิ่งใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก หากช่วงที่คุมทีมได้สองเป้าหมายสำคัญอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โรเมลู ลูกากู ร่วมทีม
กูนซือชาวอิตาเลี่ยน มาคุม “สิงห์บลูส์” เมื่อปี 2016 โดยปีแรกก็นำทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองสำเร็จ ตามด้วยปีที่สองที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ แต่ทีมจบที่อันดับ 5 ชวดไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้โดนปลดจากตำแหน่งไป
ในซัมเมอร์ปี 2017 ทาง คอนเต้ วางสองเป้าหมายสำคัญที่ต้องเสริมทีมให้ได้คือ ฟาน ไดค์ กับ ลูกากู แต่สุดท้ายชวดทั้งคู่ โดยรายแรกไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงตลาดหน้าหนาวของฤดูกาล 2017/18 ส่วนรายหลังไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะที่ เชลซี เบนเป้าหมายและคว้า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กับ อัลบาโร่ โมราต้า เข้ามาเสริมทัพ
คอนเต้ พูดถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า “ประวัติศาสตร์การคุมทีมของผม ผมมักจะไปคุมทีมที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและมีปัญหา ผมต้องสร้างทีมขึ้นใหม่เสมอ”
“หลังจากฤดูกาลของผมกับ เชลซี เมื่อเราได้แชมป์ลีก เราน่าจะครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอล อังกฤษ, เราได้คุยกับ ลูกากู และ ฟาน ไดค์ ซึ่งกับสองผู้เล่นคนสำคัญนี้ เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้”
ส่วนเรื่องราวกับ สเปอร์ส ทาง คอนเต้ กล่าวว่า “สำหรับผมการฉลองอันดับที่ 4 และคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอะไรที่แปลกจริงๆ ในช่วงท้ายของเกมสุดท้ายกับ นอริช (ที่ สเปอร์ส การันตีอันดับ 4 ในปี 2022) ผมเรียกทีมสตาฟฟ์มาแล้วพูดว่า ‘ตั้งใจเอาไว้ อย่าไปคุ้นเคยกับแค่การฉลองพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีกเท่านั้น'”
“ผมชัดเจนมาก ผมบอกว่าเราทำเต็มที่แล้ว จากอันดับ 9 มาสู่อันดับ 4, ด้วยปัญหาทั้งหมดที่เราต้องเจอ มันคือปาฎิหาริย์ แต่เราไม่ได้ฉลองราวกับมันเป็นปาฎิหาริย์ เพราะผมคุ้นเคยกับชัยชนะแล้ว”